สงกรานต์ปีนี้ สธ.ของด กอด-รดน้ำผู้สูงอายุ ลดเสี่ยงโควิด-19

สธ.6 เม.ย.-สธ.แนะงด “กอด หอมและรดน้ำ” ขอพรผู้สูงอายุ ช่วงประเพณีสงกรานต์ ลดการแพร่เชื้อโควิด-19  ขณะที่พบคนไทยใช้หน้ากากผ้าถึงร้อยละ 94 ถือเป็นต้นแบบคนทั่วโลก


พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย  แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19  ประจำวันวันที่ 6 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข โดย พญ.พรรณพิมล  กล่าวว่า ใน ช่วงเดือนเมษายน ถือเป็นช่วงที่มีประเพณีวัฒนธรรมและวันผู้สูงอายุ แม้ว่ากิจกรรมถูกเลื่อนออกไปแล้ว แต่ก็ถือเป็นเดือนที่ต้องร่วมมือกันให้ผู้สูงอายุไม่ติดเชื้อ ซึ่งรายงานพบว่าอัตราของผู้ป่วยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป  อยู่ที่ร้อยละ10 ส่วนคนวัยทำงาน อายุ30-59 ปี ร้อยละ52 อายุ20-29ปี ร้อยละ 23 แสดงให้เห็นว่า กลุ่มลูกหลานเป็นกลุ่มที่จะกลับไปแพร่เชื้อต่อให้กลุ่มผู้สูงอายุ 


ส่วนอัตราการเสียชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุจะสูงกว่าวัยหนุ่มสาว  ซึ่งอัตราการป่วยของช่วงอายุ 60-69 ปี สะสมอยู่ที่ 149 ราย เสียชีวิต 1 ราย คิดเป็นอัตราป่วยและเสียชีวิต ร้อยละ 0.7 ช่วงอายุ70-79 ป่วยสะสมอยู่ที่ 57 ราย เสียชีวิต 6 ราย คิดเป็นอัตราการป่วยและเสียชีวิตร้อยละ10.5 ส่วนอายุเกิน 80 ปีขึ้นไป มีผู้ป่วย 12 ราย เสียชีวิต 2 ราย อัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ร้อยละ16.7 หากดูภาพรวมการเสียชีวิตของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้สูงอายุ 9 รายที่เสียชีวิต ถือเป็นร้อยละ45 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด จึงอยากให้งดกิจกรรมต่าง ๆ หรือลดการเดินทางกลับบ้านของกลุ่มลูกหลานที่จะนำเชื้อไปแพร่ให้กับผู้สูงอายุ และขอให้ผู้สูงอายุงดออกจากบ้าน เว้นระยะห่าง

พร้อมห่วงช่วงประเพณีสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเลื่อนกิจกรรมสงกรานต์แล้วก็ตาม อยากแนะนำลูกหลานว่า อยากให้ลดการพบปะ สังสรรค์ ใช้วิธีโทรศัพท์หรือไลน์ในการอวยพร ไม่สนับสนุนให้รดน้ำผู้สูงอายุหรือคนในครอบครัว กอดหอม ลดการแพร่เชื้อ

ส่วนตัวของลูกหลาน ขอความร่วมมือ หากยังทำงานอยู่หรือต้องเดินทาง เมื่อกลับเข้าบ้าน ให้ทำความสะอาดร่างกายหรืออาบน้ำก่อนสัมผัสผู้สูงอายุ หากมีผู้ป่วยอยู่ในบ้านให้สวมหน้ากากผ้าตลอดเวลา สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ต้องทำการกักตัว 14 วันก่อนกลับเข้าบ้านตามที่รัฐจัดหาสถานที่ให้


สำหรับการล้างมือต้องล้างด้วยน้ำสบู่ อย่างน้อย 24 วินาที ลดการแพร่เชื้อ เมื่อไม่สบายต้องหยุดอยู่บ้านและสวมหน้ากากอนามัย ลดการสังสรรค์ เลี่ยงพื้นที่คนหนาแน่น เลี่ยงการสัมผัสหน้า ตั้งสติว่าหากมือไม่สะอาด อย่านำมือมาแตะหน้า และรับผิดชอบกักตัวเมื่อมาจากที่เสี่ยง

ด้าน นพ.บัญชา กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นต้นแบบในการใช้หน้ากากผ้า ซึ่งองค์การอนามัยโลก มีการปรับคำแนะนำให้คนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โดยตัวเลขสวมหน้ากากผ้าของคนไทยสูงถึงร้อยละ94 รวมถึงมาตรการต่างๆ ทั้งการล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม ถือเป็นทิศทางที่ดี ว่าวันนี้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 51รายเท่านั้น พร้อมแนะนำการถอดหน้ากาก พยายามให้จับที่สายคล้องหู อย่าสัมผัสด้านหน้าของหน้ากาก โดยตรง ส่วนกลุ่มมีความเสี่ยง ที่ต้องกักตัว หน้ากากควรทิ้งให้มิดชิดและใส่ถุงพร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนทิ้ง เพื่อป้องกันการแะร่กระจายของเชื้อ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว

ยิงสส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา ขณะที่ตัว “จ่าเอ็ม” มือยิง คาดว่าจะยังไม่ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยเร็วๆ นี้

burned houses alongside of road in Pacific Palisades

คนดังแห่อพยพออกจากบ้านในแอลเอ หนีไฟป่า

ผู้มีชื่อเสียงหลายคน รวมถึงคนในแวดวงบันเทิงฮอลลีวูดของสหรัฐ อยู่ในกลุ่มประชาชนหลายหมื่นคนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หนีไฟป่าที่กำลังโหมไหม้เหนือการควบคุมรอบนครลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย