ติดเชื้อเพิ่ม 102ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 มีคนฝ่าฝืนเคอร์ฟิว 622 คน

ทำเนียบรัฐบาล 5 เม.ย.- ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 พบผู้ป่วยใหม่ 102 ราย ผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,169 ราย เสียชีวิตรวม 23 ราย พบ 1 ราย อายุเพียง 30 ปี ถือว่าน้อยสุด แต่มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ ขณะยังมีคนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวถึง 622 คน ดำเนินคดีแล้ว 325 คน 


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีติดตามเรื่องการติดตามตัว 158 คนไทย โดยสั่งการทุกหน่วยงานให้ทำงานอย่างบูรณาการ ซึ่งติดตามตัวมาได้ครบทุกคนแล้ว ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณทั้ง 158 คนไทยที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกัน ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดที่เข้ามารายงานตัว จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกในต่างจังหวัด 65 คน 27 จังหวัด แบ่งสถานที่กักตัวเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โรงพยาบาล โรงแรมหรือรีสอร์ท และสถานที่ราชการ ส่วนใน กทม.และปริมณฑล รายงานตัว 93 คน เข้าพักที่โรงแรมใน กทม. 2 แห่ง ยืนยัน กระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดูแลอย่างดี มั่นใจได้ว่า หากติดเชื้อก็จะดูแลอย่างดี ไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อ โดยมีผู้ตรวจราชการของกระทรวงสาธารณสุขนำทีมเข้าไปคัดกรองและที่พบก่อนหน้านี้ว่า 3 รายมีอาการป่วยนั้น มี 1 รายที่รายงานตัวแล้ว อีก 2 รายยังสอบสวนหาตัวอยู่ พร้อมขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้กับสถานที่กักตัวของรัฐ 

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงการประกาศเคอร์ฟิวเวลา 22.00-04.00 น.ว่า ในคืนวันที่ 3-4 เมษายน ได้ตั้งจุดตรวจจำนวน 634 จุด มีรถผ่าน 7,997 กว่าคัน มี 10,000 กว่าคนที่ผ่านจุดตรวจ และพบการกระทำผิดไม่มีเหตุผลในการเดินทาง เป็นรถยนต์ 522 คัน 677 คน นอกจากนี้ยังพบการรวมกลุ่มมั่วสุม เช่น การดื่มสุรา การเสพยาเสพติด คิดเป็น ยานพาหนะ 24 คัน จำนวน 41 คน โดยทั้งหมด มีการตักเตือน 375 คน ดำเนินคดี 325 คน 


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) มีคนไทยเดินทางเข้ามา 2 เที่ยวบิน จากมาเลเซีย 51 คน กาตาร์ 47 คน ซึ่งนำไปกักตัวในโรงแรม 2 แห่ง โดยการดำเนินการของเจ้าหน้าที่มีความรวดเร็วขึ้น ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง และบูรณาการของภาครัฐได้ดีขึ้น นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานของทุกคน

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในฐานะโฆษกศูนย์ ศบค. กราบขออภัยคนไทยที่ติดค้างอยู่ต่างประเทศ ที่ทราบคือผู้ที่กำลังต่อเครื่อง ที่ต้องรอคอยอยู่ในสนามบินต่างประเทศ โดยได้รับรายงานว่ามีคนไทยต้องติดอยู่สถานที่ต่างๆ ทำให้เกิดความไม่สะดวกบ้าง สถานทูตก็ได้เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งที่ต้องยืดเวลาเพราะเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมการในการดูแลเมื่อเดินทางมาถึงอย่างดีที่สุด โดยตอนนี้ ทราบว่า จำนวนคนไทยที่จะเดินทางเข้ามาไม่มากแล้ว ตัวเลขอยู่ที่ประมาณหลัก 200-300 คนต่อวัน แต่ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับทุกคน ทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างดี ขอให้อดทนสักนิด ทั้งนี้ ยืนยันว่า ต่างชาติยังชื่นชม สถานที่กักตัวโดยรัฐและอาหารการกินที่ดีกว่าหลายประเทศ

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังรายงานสถานการณ์วันนี้ (5 เม.ย.)ว่า ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 102 ราย พบใน 66 จังหวัด รวมผู้ป่วย 2,169 ราย หายป่วยแล้ว 674 ราย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวม 23 คน โดยผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายไทย 46 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางกลับจากกรุงลอนดอนถึงไทย ในวันที่ 22 มีนาคม เข้ารับการรักษาครั้งแรกในวันที่ 25 มีนาคม ด้วยอาการไข้ 38.9 องศา มีอาการไอ เจ็บคอ น้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 3 เมษายน ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 82 ปี เป็นโรคหัวใจ มีประวัติเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้ร่วมงานเลี้ยงในหมู่บ้านที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และร่วมงานเลี้ยงในบาร์ ร้านอาหารย่านสุขุมวิท กทม. โดยมีอาการไข้ 39.2 องศา มีความดันโลหิตสูง หายใจเหนื่อยหอบ เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดบวม ภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ก่อนจะย้ายมารักษาโรงพยาบาลที่เพชรบุรีก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านผู้เสียชีวิตรายที่สาม เป็นชายไทยอายุ 30 ปี มีอาชีพก่อสร้าง มักดื่มสุราเป็นประจำ เดินทางจากจังหวัดพัทลุงและสุรินทร์ มีอาการป่วย ไอ ไม่มีไข้ เสมหะเขียว อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลด เหนื่อยหอบ ออกซิเจนในเลือดต่ำ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา


อย่างไรก็ตาม ได้นำกรณีผู้เสียชีวิต 20 รายก่อนหน้านี้มาเรียนรู้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยพบผู้ป่วยชายเสียชีวิตมากกว่าเพศหญิง โรคประจำตัวที่พบส่วนใหญ่คือ เบาหวาน 50% ความดันโลหิตสูง 35% โรคไตเรื้อรัง 15% ไขมันในเลือดผิดปกติ 15% และโรคอื่นๆได้แก่ โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง วัณโรคและมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงการเสียชีวิตของกลุ่มคนอายุ 50-69 ปี คือ กลุ่มที่ไปต่างประเทศและพิธีทางศาสนา ส่วนปัจจัยเสี่ยงการเสียชีวิตของกลุ่มคนอายุ 70 ปีขึ้นไป คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสนามมวย และกลุ่มอายุ 80-89 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราการป่วยตายมากที่สุด 

ขณะที่ในจำนวนผู้ป่วยเพิ่ม 102 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 48 คน เป็นสถานบันเทิง 2 คน พิธีกรรมทางศาสนา 2 คน และสัมผัสผู้ป่วยยืนยันใกล้ชิด 44 คน  

กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ป่วยอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 42 คน อาทิ คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 คน ส่วนใหญ่มาจากอังกฤษ 7 คน เป็นอาชีพเสี่ยงที่ทำงานในสถานที่แออัดหรือใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 19 คน บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข 2 คน และกลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 12 คน

สำหรับผู้ป่วยใหม่ทั้ง 102 คน เป็นคนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสูงสุด 34 คน รองลงมา ภูเก็ต 24 คน ซึ่งเป็นอาชีพเสี่ยง 10 คน และเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย 8 คน สมุทรปราการ 9 คน ชลบุรี 8 คน นนทบุรี 7 คน เชียงใหม่ 3 คน ฉะเชิงเทรา นราธิวาส พัทลุง ลำปาง 2 คน และ นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สกลนคร สระแก้ว สุรินทร์ จังหวัดละ 1 คน 

สำหรับผู้ป่วยสะสมทั้ง 2,169 คน ใน 66 จังหวัด 10 อันดับสูงสุดของจังหวัดที่พบผู้ป่วยคือ กรุงเทพหานคร 1,011 คน นนทบุรี 137 คน ภูเก็ต 131 คน สมุทรปราการ 108 คน ชลบุรี 68 คน ยะลา 52 คน ปัตตานี 45 คน สงขลา 37 คน เชียงใหม่ 36 คน ปทุมธานี 28 คน และอยู่ระหว่างสอบสวน 179 คน 

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังชี้ให้เห็นผู้ป่วยชาวไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ  ส่วนใหญ่กลับจากยุโรปจำนวน 85 ราย  มาเลเซีย 49 ราย  อินโดนิเซีย 44 ราย  กัมพูชา 26 ราย ปากีสถาน 14 ราย ญี่ปุ่น 10 ราย สหรัฐอเมริกา 9 ราย และอื่นๆ 12 ราย จึงขอบคุณทั้ง 158 คนไทยที่กลับเข้ามากักตัวกับทางรัฐ ทั้งนี้ ยังแนะว่า ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ แม้จะมีใบรับรองแพทย์และกักตัวที่ประเทศต้นทางมาแล้ว 14 วัน แต่ก็ต้องปรับตัวที่ประเทศไทยอีก 14 วัน เพื่อความมั่นใจและไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่น ขณะเดียวกัน ยังวิเคราะห์ว่า การติดเชื้อภายในประเทศในระยะเวลา 7 วันล่าสุด  ในส่วนของ กทม.มีแนวโน้มลดลง ส่วนต่างจังหวัดค่อนข้างคงที่ ขณะที่การติดเชื้อจากต่างประเทศใน 7 วันล่าสุดนั้น ต่างชาติไม่เกิน 10 รายต่อวัน ส่วนใหญ่มาจากยุโรป คนไทย 25 รายต่อวันจากยุโรป  ปากีสถาน  และอินโดนีเซีย  (ดาวะห์) 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า  สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้  สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด  310,233 ราย เสียชีวิต 8,445 ราย รองลงมาคือสเปน มีผู้ติดเชื้อ 126,168 ราย เสียชีวิต 11,947 ราย และอิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 124,632 ราย เสียชีวิต 15,362 ราย โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 38 อย่างไรก็ตามชื่นชม 11 จังหวัดที่ยังไม่มีอะไรการรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ  ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี อ่างทอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC

จับตาประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” คลายปมร้อนชายแดน

14 มิ.ย. – จับตาการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” เจรจาลดความตึงเครียดชายแดน โดยฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้ว มุ่งใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ “ภูมิธรรม” หวังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย พร้อมคณะฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยมีนาย Khum Ponnaban อธิบดีกรม Technique of Border Affairs General Department หน่วยงาน State Secretariat of Border Affairs (เทียบเท่ากระทรวง) ของกัมพูชา ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หวังการประชุม JBC จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นมิตรและการรักษาประโยชน์ร่วมของไทยและกัมพูชาให้กลับมาสู่ภาวะปกติ .-สำนักข่าวไทย

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย