พรรคกล้า เสนอรัฐบาลช่วยเอสเอ็มอีที่กระทบจากโควิด19

กทม. 3 เม.ย. -พรรคกล้า เสนอรัฐบาลช่วยเอสเอ็มอีเป็นการเร่งด่วน เชื่อหากไปรอดเศรษฐกิจไทยไปต่อได้ แนะพักต้น พักดอกผู้ประกอบการพร้อมเสนอแผนดูแลประชาชน3 กลุ่มหลัก 24 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19


นายกรณ์ จาติกวณิช  ว่าที่หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก  ถึงมาตรการที่เหมาะสมในการนำมาช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยเป็นการเร่งด่วน โดยระบุว่าทีมเศรษฐกิจได้ระดมความคิดจากผู้ประกอบการเสนอหลักคิดให้รัฐบาลพิจารณาในการออกมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน  ซึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการมากที่สุดคือ ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างเด็ดขาด เพื่อทุกคนจะได้กลับไปทำมาหากินได้  แต่ระหว่างนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการ เพื่อไม่ให้ลูกจ้างต้องตกงานและประเมินว่าค่าใช้จ่ายหลัก คือ  เงินเดือน ดอกเบี้ยค่าเช่าพร้อมยังเสนอแนวคิดเพื่อรัฐบาลพิจารณา คือ รัฐบาลควรจะรับภาระช่วยจ่ายเงินเดือน ลูกจ้างของธุรกิจเอสเอ็มอีคนละ 6,000 บาท รวมไปถึงการจ่ายค่าประกันสังคมให้กับนายจ้างและลูกจ้าง เป็นเวลา 3 เดือน  มาตรการนี้จะช่วยลดปัญหาการเลิกจ้าง ไม่ให้พนักงานหลายล้านคนต้องตกงาน เพราะนายจ้างไม่มีกำลังในการจ่ายเงินเดือน 

นายกรณ์ระบุว่ารัฐบาลควรจะมีมาตรการ พักต้น  พักดอกให้กับผู้ประกอบการ และจ่ายดอกเบี้ยแทน  ผู้ประกอบการรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งรัฐบาลควรจะมีมาตรการงดเก็บค่าเช่าหน้าร้าน สถานประกอบการให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นระยะเวลา 3 เดือน  อัตราค่าเช่าที่จะงดเก็บนั้นสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาทต่อเดือนต่อราย  โดยรายที่มีค่าเช่าไม่ถึง1 หมื่นบาท ให้งดจ่ายตามอัตราค่าเช่าจริง ซึ่งเจ้าของผู้ให้เช่า สามารถนำเงินค่าเช่าที่งดเก็บค่าเช่าจากผู้ประกอบการมาขอหักลดหย่อนภาษีได้ในภายหลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ พรรคกล้า ได้นำเสนอแผนดูแลประชาชนที่เจ็บหนักจากพิษเศรษฐกิจจากโควิด 3 กลุ่มหลัก 24 ล้านคน คือ  ผู้มีอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ขายรายเล็ก หาบเร่แผงลอย  รวม 12 ล้านคน กลุ่มเกษตรกร  4 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าระบบประกันรายได้เกษตรกร  และกลุ่มลูกจ้างรายได้น้อย  อยู่ในระบบประกันสังคม แต่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ชำระภาษีกว่า 8 ล้านคน 


“พรรคกล้าได้มีข้อเสนอว่า กลุ่มที่เดือดร้อนที่สุดกลุ่มนี้ควรได้รับ 5,000 บาทต่อคนต่อราย  ติดต่อกัน 3 เดือนทุกคนโดยไม่ต้องแย่งกันลงทะเบียนเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด แหล่งที่มาของงบประมาณ 3 วิธี คือ โอนงบทันทีกระทรวงละ 10%  ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณพร้อมจะทำแล้ว   หากไม่พอสามารถออก พ.ร.ก.กู้เงินได้ และปรับงบปี 2564 เพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด-19  ทั้ง 3 แผน  ช่วยคนไทย 24 ล้านคน  เจ็บหนักที่สุด  พร้อมไปกับเอสเอ็มอี  2 ล้าน กิจการขนาดเล็กที่ร่อแร่  เม็ดเงินงบประมาณสามารถจัดสรรได้เพียงพอ และทำได้ทันที  พรรคกล้าขอให้รัฐบาลนำไปพิจารณาและปรับใช้ให้ทันท่วงที”นายกรณ์ โพสต์ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว