บขส. หยุดเดินรถทุกเส้นทาง 100 % เริ่มวันนี้

กรุงเทพฯ 3 เม.ย.  – บขส. หยุดเดินรถทุกเส้นทาง 100 % หลังรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนนี้ แนะผู้โดยสารขอคืนตั๋ว – เลื่อนการเดินทางได้ที่ เว็บไซต์ transport.co.th พร้อมปรับเวลา เปิด-ปิดสถานีขนส่งหลักในกรุงเทพฯ เริ่ม 05.00 สิ้นสุด 19.00 น. 


นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เม.ย. 2563 ห้ามบุคคลทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 – 04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับบางจังหวัดประกาศปิดเมือง และต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่าง Social Distancing ทำให้ บขส. ไม่สามารถจัดรถให้บริการประชาชนได้ ทุกเส้นทางทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จึงขอให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้ว ขอคืนตั๋วโดยสารหรือเลื่อนการเดินทาง ผ่านทางเว็บไซต์ transport.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ยกเว้นการรับ-ส่ง พัสดุภัณฑ์ของ บขส. ที่ต้องขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน ยังเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนถึงเวลา 20.30 น.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ บขส.จะเปิดให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร, เอกมัย , ถนนบรมราชชนนี) และสถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) หรือรถตู้ เริ่มเวลา 05.00 น. และสิ้นสุดเวลา 19.00 น. ตั้งแต่วันนี้ (3 เม.ย.63) เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ 


ส่วนรถร่วมฯ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่แจ้งขอหยุดการเดินรถ แต่ยังมีบางเส้นทางที่วิ่งให้บริการ เนื่องจากประชาชนบางส่วนยังมีความจำเป็นต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อมาทำงาน หรือพบแพทย์ตามนัด โดยเส้นทางที่มีระยะทางเกิน 300 กิโลเมตร (สายยาว) จะมีรถให้บริการช่วงเวลา 05.00 – 11.00 น. เท่านั้น  ส่วนเส้นทางที่มีระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร (สายสั้น) จะมีรถให้บริการช่วงเวลา 05.00 – 16.00 น.

สำหรับการเดินรถในภาพรวม ผู้โดยสารลดลงกว่าร้อยละ 90 และมีแนวโน้มจะลดลงอีก เพราะผู้ประกอบการทยอยหยุดการเดินรถ และรัฐบาลมีนโยบายให้ทำงานที่บ้าน Work From Home ทำให้รถในระบบมีวิ่งให้บริการไม่ถึงร้อยละ 10 ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้โดยสารหากไม่มีความจำเป็น ควรงดเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 ซึ่งการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะนับว่ามีความเสี่ยงสูง ประชาชนควรอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”