ตม.ยันชายวัย 57 กลับจากปากีสถาน ผ่านตรวจโรค-ตรวจคนเข้าเมืองทุกขั้นตอน!!

กรุงเทพฯ 3 เม.ย.-มีรายงานจาก สตม. กรณีชายวัย 57 ปี กลับจากปากีสถานแล้วเสียชีวิตบนรถไฟ ผลตรวจติดโควิด-19 ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายได้ 35.1 องศาฯ นั้น ได้ผ่านการตรวจโรคแล้ว ตม.จึงอนุญาตให้เข้าประเทศ


พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศ ของผู้โดยสารคนไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ระบุว่า ผู้โดยสารชาวไทยทุกคน  จะต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศ จากสถานทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยในประเทศนั้นๆ ว่าผู้โดยสารชาวไทยคนดังกล่าวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์สามารถเดินทางได้  

กรณีผู้โดยสารชาวต่างชาติ นอกจากต้องมีใบรับรองการเดินทาง เช่นเดียวกับผู้โดยสารคนไทยแล้ว   จะต้องเพิ่มในส่วนของใบรับรองแพทย์ว่าไม่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และหลักฐานการทำประกันไม่ต่ำกว่า 1 แสน ยูเอสดอลล่า  เมื่อมาถึงท่าอากาศยานสายการบิน จะทำการตรวจเอกสารดังกล่าวและตรวจวัดไข้ซ้ำอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินเฉพาะผู้โดยสารที่อุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 เท่านั้น


สำหรับผู้โดยสารที่ผ่านการตรวจร่างกายและเอกสารทุกขั้นตอนแล้วเมื่อโดยสารเครื่องบินมาถึงประเทศไทย จุดแรกที่ต้องผ่าน คือ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ในรายที่อุณหภูมิ ไม่เกิน 37.5 เจ้าหน้าที่จะทำการประทับตราสัญลักษณ์ แสดงให้ทราบว่าได้ตรวจโรคผ่านแล้ว ลงในหนังสือเดินทาง

จากนั้นจึงจะเป็นขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมือง  ซึ่งจะทำหน้าที่ในการคัดกรองในมิติความมั่นคง เช่น ตรวจหนังสือเดินทาง ส่วนการคัดกรองโรค ช่วยสังเกตอาการด้วยตาเปล่าเท่านั้น หากพบว่ามีอาการผิดปกติหรือเป็นไข้ จะประสานให้แพทย์จากจุดด่านควบคุมโรคตรวจสอบซ้ำ!!

ทั้งนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะสนับสนุน ภารกิจที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงสาธรณสุข ในเรื่องของการกรอกข้อมูลเอกสารเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคแต่อย่างใด


มีรายงานว่ากรณี ชายวัย 57 ปีชาวจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน และเสียชีวิตบนรถไฟ  และผลตรวจติดเชื้อโควิด19 พบว่า  ในการเดินทางเข้าประเทศชายคนดังกล่าว นั่งรถเข็นวีลแชร์ โดยอ้างว่าป่วยเบาหวาน และผลการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย วัดซ้ำ 2 ครั้ง ได้ 35.1 องศาฯ ไม่พบว่ามีไข้ เจ้าหน้าที่จึงประทับตราผ่านการตรวจโรคและเข้าสู่ขั้นตอน การตรวจคนเข้าเมือง โดยปกติถ้าผ่านการตรวจโรค ตม. ก็ตรวจเอกสารหนังสือเดินทาง หากถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถเข้าประเทศได้เหมือนกับคนไทยทั่วไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย