โรงแรมขานรับ สธ.พร้อมเปิด Hospitel รับผู้ป่วยโควิด-19 ลดภาระ รพ.

สธ.2 เม.ย.-สธ.ร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรม จัด Hospitel รับผู้ป่วยโควิด-19 แบ่งเบาภาระโรงพยาบาล ได้ห้องพักแล้วรวม800 ห้อง มีผู้เข้าพักรักษา 60 คน สบส.ชื่นชมมีโรงแรมจากทั่วประเทศเสนอเข้าร่วมกว่า 100 แห่ง รวมกว่า 1.6 หมื่นห้อง ขณะนี้ผ่านเกณฑ์แล้ว 18 แห่ง รวมกว่า 2 พันห้อง



นายสาธิต  ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ร่วมแถลงข่าวเตรียมพร้อมเปลี่ยนโรงแรมเป็น Hospitel เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และโรงแรมภาคเอกชน


นายสาธิต กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนจัดการเตียงรองรับผู้ป่วย โดย Hospitel เน้นรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของผู้ป่วยโควิด-19 มีมากถึงร้อยละ 80 โดยจะขอความร่วมมือจากทุกโรงพยาบาล ในการทำงานร่วมกัน โดยขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการโรงแรม 2 แห่งในการจัดการบริหารเตียงคนไข้ ในลักษณะของ Hospitel คือโรงแรมปริ๊นซ์ตันมีจำนวน 270 ห้องพัก ขณะนี้รองรับผู้ป่วยแล้วจำนวน 50 คนและเตรียมเข้าพักเพิ่มอีกประมาณ 10 คน ส่วนโรงแรมเดอะพาลาสโซ และโรงแรมในเครือ มีห้องพัก 439 ห้อง 


ส่วนภาพรวมขณะนี้มีจำนวนห้องพักโรงแรมต่างๆที่มาเข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมีประมาณ 800 ห้อง จำนวนนี้พร้อมรองรับผู้ติดเชื้อได้ถึงประมาณเดือนพฤษภาคม จะรองรับผู้ป่วยใน 2 กรณีคือกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าคนไข้เข้าข่ายการกักตัวเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องสังเกตอาการจำนวน 14 วัน ส่วนอีกกลุ่ม คือผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแม้ว่า แพทย์ยังไม่วินิจฉัยว่าต้องกักตัวก็สามารถเข้ากักตัวเองตามสถานพยาบาลที่เข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสังเกตอาการได้

รมช.สาธารณสุข ยังขอความกรุณาให้สังคมเข้าใจในสถานการณ์ที่มีความจำเป็นต้องมีสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อ จึงขอให้ชุมชนรอบข้างเข้าใจและยอมรับการอยู่ร่วมกันให้ได้

อธิบดีกรม สบส.กล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมเป็น Hospitel ว่า ต้องมีจำนวนห้องพักไม่น้อยกว่า 30ห้องขึ้นไป มีใบอนุญาตถูกต้อง มีโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆที่พร้อม สะดวกในการสนับสนุนภารกิจ โดยเฉพาะเรื่องสุขอนามัย ทั้งระบบกำจัดขยะ การซักผ้าติดเชื้อ ระบบระบายน้ำเสีย ซึ่งการที่โรงแรมเหล่านี้มาร่วมให้กระทรวงสาธารณสุขใช้เป็นที่รองรับคนไข้นั้น ทางกระทรวงจะพิจารณาค่าตอบแทนให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมตามหลักการเบิกจ่ายของภาครัฐ ซึ่งตัวเลขที่แต่ละโรงแรมได้รับอาจน้อยนิดเทียบไม่ได้กับค่าโรงแรมที่เคยได้รับในช่วงปกติ ดังนั้นต้องถือว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือผู้เสียสละเพื่อสังคม จึงอยากให้ร่วมกันชื่นชม

“ตอนนี้มีโรงแรมต่างๆ ทั่วประเทศที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ Hospitel อีกจำนวนมาก เช่นใน กทม.มี 85 แห่ง,ชลบุรี 15แห่ง,นครราชสีมา 8 แห่ง ,เชียงใหม่ 6 แห่ง  รวมทั่วประเทศมีห้องพักที่พร้อมจะเข้าร่วมมากถึงกว่า 16,000 ห้อง แต่ขณะนี้โรงแรมที่ผ่านเกณฑ์จาก สบส.มี 18 แห่ง รวมแล้วกว่า 2,000 ห้องที่พร้อมจะเข้าร่วม” อธิบดีกรม สบส.กล่าว

ด้านอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงจำนวนเตียงในโรงพยาบาลที่จะรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณ 10,000 เตียง ถามว่าพอไหม ถือว่าเพียงพอ แต่หากในกรณีที่มีคนไข้เพิ่มจำนวนมาเรื่อยๆ และแต่ละรายต้องนอนพักนาน อย่างกรณี “แมทธิว” หรือ “ลิเดีย”ที่นอนนานกว่า 20 วัน เกรงว่าห้องที่มีอยู่อาจไม่พอ จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม และมีแผนรองรับคือ Hospitel 

โดยแต่ละแห่งที่เข้าร่วมต้องผ่านหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดจาก สบส.ส่วนหลักเกณฑ์พิจารณาผู้ป่วยที่จะเข้าสังเกตอาการที่ Hospitel ต้องผ่านการนอนรักษาที่โรงพยาบาลหลักมาแล้วอย่างน้อย 1 อาทิตย์ และต้องไม่มีอาการไข้แล้ว ต้องมีการประเมินสภาพจิต และหากมีโรคประจำตัว ต้องมียารักษาโรคมาให้พร้อม และสุดท้ายหากคนไข้มีอาการทรุดลง ทางโรงพยาบาลหลักต้องยินดีที่จะรับตัวกลับไปรักษาเช่นเดิม

นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมทีมแพทย์พยาบาลในการดูแลคนไข้ โรงแรมละ 3-5 คน มาดูแล โดยจะดูแลผ่านกล้องซีซีทีวีที่มีการเชื่อต่อและเห็นความเคลื่อนไหวทุกห้อง และในห้องพักจัดเตรียมอุปกรณ์วัดไข้ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเอ็กซเรย์ปอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาดูแลคนไข้อีกด้วย ยืนยันมีมาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกแห่ง

ส่วนกรณีโรงแรมพาลาซโซ่ ขณะนี้เตรียมการไว้ยังไม่มีการรับผู้ป่วย เพราะจะต้องรอให้โรงแรมปริ๊นซ์ตัน มีผู้ป่วยอย่างน้อยร้อย 70 ของห้องที่เตรียมไว้ จึงจะขยับขยายมาที่นี่ นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจากกระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะสนับสนุนการสื่อสาร การเชื่อมต่อระบบกล้อง cctv ใช้กับทุกห้องในโรงแรมที่ดัดแปลงเป็น Hospitel สนับสนุน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ,ระบบ WiFi ,ระบบโทรศัพท์ให้กับทีมแพทย์และพยาบาล ที่มาประจำ Hospitel ด้วย 

ขณะเดียวกันหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีระบบทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างดี มีมาตรฐานให้กับโรงแรม กลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ จึงขอให้มั่นใจในระบบการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขที่จะดูผู้เสียสละให้กับสังคมในเวลานี้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม