สมุทรสาครเตรียมปรับเงินคนไม่ใส่แมสก์

สมุทรสาคร 4 เม.ย.-ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เตรียมใช้มาตรการจับปรับผู้ที่ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยออกนอกบ้าน  20,000 บาท เริ่ม 3 เม.ย.นี้


กรณีที่มีการส่งข้อความผ่านทางกลุ่มไลน์เป็นจำนวนมากและแพร่หลายในช่วง 2- 3 วันที่ผ่านมา ว่า“ขออย่าให้พนักงานเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆในสมุทรสาคร เพราะเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อโควิด -19 มีทั้งห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัยวัด หมู่บ้านและโรงพยาบาลหลายแห่ง ” จนสร้างความหวาดวิตกให้กับผู้ที่ได้รับข้อความ แล้วก็นำมาสู่ความสับสนว่าสถานที่ต่างๆ นั้น ห้ามไปจริงหรือไม่ 


ล่าสุดนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สถานที่ที่มีการแชร์ในกลุ่มไลน์ หากติดตามข้อมูลสถานการณ์ของโควิด-19 สมุทรสาครอย่างต่อเนื่องจะทราบดีว่าคือสถานที่ที่ปรากฏในไทม์ไลน์ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ของสมุทรสาคร ที่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ที่เอามาพิมพ์ และยังเพิ่มเติมเนื้อหาบางสถานที่เข้าไปทั้งๆ ที่ยังไม่ปรากฏในไทม์ไลน์ด้วยซ้ำ จึงถือว่ามีความผิด เพราะความจริงแล้ว สถานที่เหล่านั้นน่าจะมีความปลอดภัยมากกว่าสถานที่อื่นๆทั่วไป  เนื่องจากเมื่อเป็นสถานที่ที่ผู้ติดเชื้อเคยเดินทางไปหรืออาศัยอยู่ จะมีการควบคุมสถานที่อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทั้งการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ มีการสังเกตุกันตามระบบ แต่ในทางกลับกันสถานที่อื่นๆที่ไม่ปรากฏในไทม์ไลน์ตอนนี้น่าจะอันตรายมากว่าด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าจะมีเชื้อโรคแพร่กระจายอยู่หรือไม่ หรือจะมีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอยู่ตรงนั้นหรือไม่ จึงเป็นที่มาของคำว่า “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และป้องกันตัวเองด้วยการการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกมาจากบ้าน และทางจังหวัดจะเริ่มใช้มาตรการจับปรับผู้ที่ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้านโดยมีโทษปรับสูงถึง 20,000 บาท โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนนี้

นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ไทม์ไลน์ที่ได้มีการเผยแพร่นั้น มันมีประโยชน์เพื่อให้คนทั่วไปได้สังเกตตัวเอง ว่าสถานที่นั้น ช่วงเวลานั้น ตนเองได้ไปมาหรือไม่ ซึ่งจะมีผลก็ต่อเมื่อตัวเราอยู่ตรงนั้นพร้อมกับผู้ป่วย แต่ในช่วงเวลาหลังจากนั้น สถานที่ต่างๆสามารถเดินทางไปได้ในกรณีที่จำเป็นต้องไป แต่ก็ต้องไปพร้อมกับมาตรการที่ต้องป้องกันตนเอง เพราะอาจมีเชื้อใหม่จากคนใหม่เพิ่มเติมเข้ามา อย่างเช่นที่โรงพยาบาลต่างๆ ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ ผู้ใช้บริการอื่นๆก็ยังไปได้ แต่จะต้องป้องกันตนเองด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว