น่านเดินหน้าเข้มตามมาตรการจังหวัดให้ปลอดเชื้อโควิด-19

น่าน 1 เม.ย.- น่าน 1 ใน 14 จังหวัด ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ว่าฯ เน้นย้ำเดินหน้าเข้มตามประกาศควบคุม ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือป้องกันตั้งแต่เนิ่น โดยเฉพาะความสามัคคีชุมชนที่เข้มแข็งเป็นกลไกสำคัญช่วยกันเฝ้าระวัง


นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน  ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดน่าน  กำชับเข้มข้นในมาตรการปิดเส้นทางและตั้งด่านตรวจด่านคัดกรองเข้าออกตัวจังหวัด ทั้งโป๊ะเรือข้ามฝาก ที่เป็นเส้นทางลัดจากอุตรดิตถ์ – อ.นาหมื่น จ.น่าน  เส้นทางตามแนวด่านชายแดนที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน   เส้นทางเชื่อมต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจังหวัดแพร่ และพะเยา ปิดบริการโดยสารสาธารณะทั้งทางบกและอากาศ เพื่อให้สะดวกและเข้มข้นในการคัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดน่าน  บูรณาการทุกหน่วยงานและองค์กร สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือในการปิดสถานบันเทิง  ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่สาธารณะที่จะเป็นแหล่งรวมคน รวมถึงงดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวและชุมนุมผู้คนจำนวนมากด้วย นอกจากนี้ยังสั่งการให้นายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้มาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การติดตามการกักตัวของกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองน่านที่มี 31 ชุมชน และเป็นพื้นที่มีความแออัด ซึ่งขณะนี้จังหวัดน่านเป็น 1 ใน 14 จังหวัดยังไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเป็นเพียง 2 จังหวัดของภาคเหนือตอนบน คือ น่าน และ ลำปาง  นับเป็นความพยายามของทุกหน่วยงาน และมีความสามัคคีของชุมชนที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในระดับพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนที่ช่วยกันเฝ้าระวัง  ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด   เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดได้สำเร็จ


นายสุรพล เธียรสูตร  นายกเทศมนตรีเมืองน่าน  กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้จังหวัดน่านยังไม่มีผู้ติดเชื้อ คือ มาตรการรับมือต่าง ๆ ที่นำมาใช้อย่างรวดเร็ว   และความเข็มแข็งของชุมชน ที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกัน   มีการช่วยกันเฝ้าระวังกันเองในหมู่บ้านอย่างเข้มข้น คัดกรองกลุ่มเสี่ยงร่วมกับทางราชการ  ทำบัญชีคนเข้าออกในหมู่บ้าน 


“คนที่เดินทางมาจังหวัดน่าน   ไม่สามารถระบุได้ว่าติดเชื้อหรือไม่   แต่ประชาชนชาวน่าน ได้นำความรู้ในการป้องกันตนเองมาใช้อย่างถูกวิธี มีกฎระเบียบการใช้ชีวิตร่วมกัน   อย่างการไปตลาด หากใครไม่สวมหน้ากากอนามัย จะไม่สามารถเข้าไปซื้อของได้  ตรงนี้ทำให้จังหวัดน่าน  สามารถป้องกันตนเองจากสถานการณ์โรคระบาดได้” นายสุรพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว