สธ. 27มี.ค.-คณบดีศิริราช คาดตัวเลขผู้ป่วยที่แท้จริงของไทย จะพุ่งอีกครั้งใน2-3 สัปดาห์ อาจแตะถึง 2,000 คน ผลพวงมาจากคนแห่กลับ เพราะประกาศปิด กทม. แออัดที่ขนส่งและรถโดยสาร ห่วงคนต่างจังหวัด หากป่วย ทรัพยากรทางการแพทย์ไม่ทัดเทียมเท่ากรุงเทพฯ อัตราแพทย์น้อยกว่า
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คาดว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์หน้า ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ของไทยจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์ในขณะนี้ อัตราการป่วยต่อวันตัวเลข ค่อยๆข้างคงที่ เฉลี่ยวันละ 100 คนและยอดผู้ป่วยก็ถึง 1,000 คน เมื่อแตะจำนวนผู้ป่วยถึง 2,000 คน ตัวเลขผู้ป่วยจะพุ่งแบบก้าวกระโดด โดยสาเหตุการป่วยที่เพิ่มขึ้น มาจากจำนวนประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากที่มีการประกาศ ปิดเมืองของ กทม. ในวัน 21 มี.ค.ทุกคนแออัดอยู่ที่ขนส่ง และ อยู่ในรถเดินทางเป็นเวลานาน หลังจากนี้ถึงจะเห็นตัวเลขที่แท้จริง
ทั้งนี้ ขณะนี้ตัวเลขของไทยตามหลังมาเลเซีย แต่หากทุกคนไม่จริงจังเรื่องโซเชียล ดิสแทนซิ่ง อัตราการป่วยก็จะยิ่งสูงขึ้น การพูดคุย ในระยะปกติ อัตราละอองฝอยจะพุ่งกระจายถึง 3,000 ละออง การอยู่ห่าง 2 เมตร ช่วยป้องกันได้
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อพบผู้ป่วยในต่างจังหวัดมากขึ้น ต้องยอมรับทรัพยากรของในต่างจังหวัด และ กทม.แตกต่างกัน ในต่างจังหวัดไม่มีแพทย์เชี่ยวชาญระบบทางเดินทางหายใจเท่ากับ กทม. อุปกรณ์และเครื่องมือก็เท่ากับโรงเรียนแพทย์ อัตราและสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรก็แตกต่างกัน โดยเมืองใหญ่ อย่าง กทม. อัตราแพทย์ ต่อประชากรอยู่ที่ 1ต่อ 800 คน และในต่างจังหวัดจังหวัดหัวเมืองใหญ่ 1ต่อ 1,200 คน และ ในภาคอีสาน 1ต่อ 3,000 คน ดังนั้น ทุกคนต้องตระหนักในเรื่องนี้ และไม่อยากให้มีวันนั้น ในมาเลเซียประชากรน้อยกว่าไทย สัดส่วนอัตราแพทย์ต่อประชากรก็เหมาะสมกว่า อยู่ที่ 1 ต่อ 800 คน ทุกคนต้องร่วมกันตระหนักและจริงจังในเรื่องนี้ ระยะทางสังคม และการลดไม่พาตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยงนอกจากช่วยตัวเองปลอดโรค ยังช่วยชาติ หยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
พร้อมย้ำการจัดซื้อชุดทดสอบโควิด มาตรวจเองในคนทั่วไป ไม่จำเป็นเพราะไม่ใช่แพทย์ และยิ่งทำให้เกิดความสับสน เพราะการตรวจไม่เจอไม่ใช่ไม่มีโรค .-สำนักข่าวไทย
