หมอชิต 2 วุ่นพบผู้โดยสารไข้สูง ร้องหาแพทย์สาธารณสุขช่วยคัดกรอง

กรุงเทพฯ 25 มี.ค. – หมอชิต 2 ตึงเครียด!! หลังเจอผู้โดยสารไข้พุ่งหลายราย และปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางแพทย์ที่จะเข้ามารับตัวผู้โดยสารที่เป็นกลุ่มเสี่ยงส่งโรงพยาบาล ขณะที่แรงงานต่างชาติยังทยอยเดินทางออกจาก กทม.ต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 จตุจักร ยังมีแรงงานต่างชาติ ทั้งเมียนมาและลาว รวมถึงประชาชนในต่างจังหวัดที่กังวลเรื่องการจำกัดการเดินทาง หลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินท่ามกลางมาตรการคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น โดยวันนี้ (25 มี.ค.) ที่จุดคัดกรองผู้โดยสารพบว่ามีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศา ต้องพบแพทย์อย่างน้อย 3 คน ในจำนวนนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อแล้ว 1 ราย โดยผู้โดยสารรายดังกล่าวยอมรับว่ามีไข้และมีประวัติการเดินทางไปในหลายพื้นที่ 

โดย บขส.ได้ประสานไปยังสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้ามาทำการตรวจวัดไข้และวินิจฉัย เพื่อทำการตัดสินใจว่าจะเดินทางต่อได้หรือไม่ หรือต้องส่งตัวไปให้แพทย์วินิจฉัยว่าอาการเข้าข่ายผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังเป็นกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะกลุ่มผู้ติดเชื้อ COVID-19  ซึ่งการจัดการขณะนี้ บขส.ต้องทำการกักตัวไว้ชั่วคราวจนกว่าอุณหภูมิจะลด หรือมีแพทย์ หรือสถานพยาบาลมารับตัวไปรับการรักษาต่อไป 


ขณะที่ในพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ยังมีประชาชนผู้เดินทางสัญจรอยู่ภายในอาคาร โดยบริเวณชั้น 1 ฝั่งสำนักงานของหมอชิต 2 ถูกกันเป็นพื้นที่ติดตามอาการผู้โดยสารที่มีไข้ ทำให้ผู้โดยสารอื่นที่ผ่านมาพบเห็นเกิดความกังวลไม่สบายใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีพนักงานและผู้บริหารรถร่วมบริการหลายรายเปิดจำหน่ายตั๋วและให้บริการอยู่ในสถานีขนส่งหมอชิต 2 ออกมาระบุว่า วันนี้มีการออกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ระบาด COVID-19 แล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการจำกัดการเดินทางคมนาคมว่าจะให้การเดินทางยังเป็นปกติหรือไม่ โดยเฉพาะพื้นที่สถานีขนส่งทั่วประเทศจะยังเปิดให้บริการหรือจำกัดการเดินทางอย่างไร ทำให้มีแรงงานต่างชาติและผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งรีบเดินทางก่อนที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีผลพรุ่งนี้ โดยผู้โดยสารหลายคนยอมรับว่าสถานีขนส่งทั่วประเทศเป็นพื้นที่เปิดเป็นพื้นที่เสี่ยง เช่นเดียวกับประกาศของกรมควบคุมโรคที่ระบุมาก่อนหน้านี้ และอยากให้รัฐบาลรีบสร้างความชัดเจน เพื่อไม่ให้สถานีรถโดยสาร กลายเป็นจุดก่อให้เกิดการระบาดของไวรัส COVID ในที่สุด

โดย บขส.ขอความร่วมมือเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ภายในสถานีขนส่ง  ผู้ปฏิบัติงานภายในสถานีขนส่ง (บขส,รถร่วม) ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา ผู้ที่เข้ามาใช้บริการในสถานีขนส่งทุกคนและขณะอยู่บนรถต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ผู้โดยสารต้องผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณประตูทางเข้าทุกครั้ง หากมีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา ไม่อนุญาตให้เดินทาง จะต้องเว้นระยะห่าง 2 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้โดยสารปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง ที่ต้นน้ำหงาว-งาว

ดอกซากุระเมืองไทย หรือดอกนางพญาเสือโคร่ง นับหมื่นต้น บานสะพรั่งทั่วทั้งพื้นที่ หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

อ่างทองฝุ่นพุ่ง อันดับ 6 ของประเทศ

ค่าฝุ่นพุ่ง! “อีสาน-กลาง-ตะวันออก” ส่วนใหญ่สูงเกินค่ามาตรฐาน เริ่มกระทบสุขภาพ ขณะที่อ่างทอง PM 2.5 พุ่งสูงอันดับ 6 ของประเทศ ชาวบ้านวอนหน่วยงานรัฐเอาจริง

“จูเนียร์” เหยื่อคดี “ติ๊ก ชีโร่” เมาแล้วขับ เสียชีวิตแล้ว พ่อวอนทบทวนการเยียวยา

“จูเนียร์” เหยื่อคดี “ติ๊ก ชีโร่” เมาแล้วขับ เสียชีวิตแล้ว หลังรักษาตัวนาน 3 เดือน พ่อรับศพบ่ายนี้ วอน “ติ๊ก ชีโร่” ทบทวนการเยียวยา เพราะนอกจากค่าจัดงานศพและค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาแม้แต่บาทเดียว

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก