กฟผ.ยืนยันโควิด-19 ไม่กระทบการจ่ายไฟประชาชน

กรุงเทพฯ 24 มี.ค. – กฟผ.หนุนนโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ขอความร่วมมือพนักงานดูแลตัวเองให้ดีที่สุดในช่วง Work from Home เพื่อร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ลดความเสี่ยงและป้องกันโควิด-19 พร้อมยืนยันมาตรการจ่ายไฟไม่มีผลกระทบ 


นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  กล่าวว่า กฟผ.ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม โดยเริ่มให้พนักงานปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย (Work from Home) ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม –30 เมษายน 2563 ตามนโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” พร้อมย้ำพนักงานให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ Work from Home อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความแออัดและความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ในที่ทำงานและที่สาธารณะ แม้จะเป็นการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย แต่ กฟผ.เตรียมพร้อมและทดลองปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชนอย่างแน่นอน

สำหรับมาตรการด้านการผลิตและส่งกระแสไฟฟ้า กฟผ.มีศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าสำรอง หากต้องปิดศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อกรณีพบพนักงานในศูนย์ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมให้ผู้บริหารและพนักงาน กฟผ.ที่เคยปฏิบัติงานในศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการควบคุมและสั่งการระบบไฟฟ้าเข้ามาร่วมเสริมทีม ส่วนโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งในงานเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า กฟผ.ได้คัดเลือกพนักงานที่มีทักษะหลากหลายในสาขาไฟฟ้า เครื่องกล และความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากเกิดกรณีพนักงานไม่เพียงพอจะดำเนินมาตรการขยายเวลาการทำงานจากกะละ 8 ชั่วโมง เป็น 12 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์พิเศษ อะไหล่ คู่มือที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรักษา เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนรายชื่อร้านค้า หรือบริษัทที่ต้องส่งเครื่องมืออุปกรณ์ในการเดินเครื่องและบำรุงรักษาในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน


นอกจากนี้ กฟผ.ได้ผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และหน้ากากอนามัยมอบให้แก่ชุมชนโดยรอบ กฟผ. ประชาชนกลุ่มเสี่ยง อาทิ พนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ เด็กและเยาวชน รวมถึงมอบคอมพิวเตอร์  5 เครื่อง ให้แก่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมสนับสนุนการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 พร้อมปิดศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ทั่วประเทศ 6 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จ.นนทบุรี, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. เขื่อนศรีนครินทร์ (ราชานุรักษ์) จ.กาญจนบุรี, พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา (เหมืองแม่เมาะ) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  จ.ลำปาง, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. จะนะ จ.สงขลา, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม –  30 เมษายน 63 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว