กรุงเทพฯ 20 มี.ค.-“กรณ์” เสนอ นายกฯ ออกพระราชกำหนดตัดงบประมาณกระทรวงละ 10% เตรียมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ใช้หลักประคองเงินหมุน รองรับความต้องการทางแพทย์กรณีผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจ ช่วยผู้ประกอบการ SME และผู้ค้ารายย่อย
นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่หัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะอดีตรัฐมนตรีคลังในช่วงแก้ปัญหาวิกฤตการเงินโลก ช่วงแฮมเบอร์เกอร์ กล่าวเสนอแนะถึงการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า งบประมาณแผ่นดินปี 2563 ได้ถูกจัดเตรียมไว้ตั้งแต่ปี 2562 วันนี้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จึงต้องระวังจะเกิดวิกฤตโควิด ลามสู่ วิกฤตเศรษฐกิจ วันนี้รัฐบาลต้องเตรียมงบเพื่อรองรับความต้องการทางแพทย์ในกรณีที่ผู้ป่วยอาจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว และงบประมาณเพื่อดูแลประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อนอย่างหนักจากสภาวะเศรษฐกิจ รวมไปถึงหล่อเลี้ยงผู้ประกอบการ SME และผู้ค้ารายย่อยที่ขาดรายได้ เพื่อให้เขาอยู่รอด และไม่ต้องปลดพนักงาน รวมถึงมาตรการที่รัฐแบ่งรับภาระค่าแรง-ค่าว่าจ้างให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
“ทั้งหมดอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำ อย่าให้เงินประชาชนขาดมือ ต้องใช้หลัก ประคองเงินหมุน โดยนายกรัฐมนตรี สามารถเรียกงบคืนได้ทันที กระทรวงละ 10% เพื่อสู้วิกฤต ในครั้งนี้ และโอนงบส่วนนี้มาเป็นงบฉุกเฉินเพื่อใช้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรองรับโควิด 10% ของ 3.3 ล้านล้านบาทคือ 330,000 ล้านบาท ซึ่งผมมั่นใจว่าเป็นเรื่องที่ทำได้และต้องทำ” นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลสามารถตัดงบดูงานต่างประเทศ งบสัมมนาในประเทศ งบสันทนาการ งบจัดเลี้ยง งบอื่น ๆ ที่ไม่มีทางใช้ทันสิ้นปีงบประมาณนี้ รวมถึงงบกลาโหมบางส่วนที่โยกไปเป็นปีหน้าได้ ตอนนี้ไม่มีอะไรเร่งด่วนกว่า การขาดเงินสด และการดูแลประชาชนจากโควิดอีกแล้ว ความเดือดร้อนของประชาชนวันนี้หนักหนาสาหัส และสำคัญกว่าหลายเรื่องที่อยู่ในแผนการใช้เงินปัจจุบันตามระบบราชการเดิม โดยต้องรีบเอาเข้าครม. และออกพระราชกำหนดโอนงบประมาณ ซึ่งด้วยความจำเป็นเร่งด่วน น่าจะใช้อำนาจรัฐบาลออกเป็นพระราชกำหนดได้เลยโดยไม่ต้องเข้าสภาฯ” นายกรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย