การบินไทย-ไทยสมายล์ยกเว้นค่าธรรมเนียมเปลี่ยนเที่ยวบินสงกรานต์

กรุงเทพฯ 19 มี.ค. – การบินไทยและไทยสมายล์ยกเว้นค่าธรรมเนียมเปลี่ยนเที่ยวบินเส้นทางบินในประเทศ จากผลกระทบหยุดสงกรานต์ ขณะที่การรถไฟฯ ให้คืนตั๋วเต็มราคา


นายนนท์ กลินทะ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยกเลิกวันที่ 13-15 เมษายน 2563 ไม่เป็นวันหยุดราชการและเลื่อนออกไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงการเดินทาง ความแออัด และโอกาสติดเชื้อ บริษัทฯ คำนึงถึงผลกระทบที่ผู้โดยสารได้รับ จึงอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศของการบินไทย และเที่ยวบินร่วมของไทยสมายล์ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารเส้นทางบินภายในประเทศที่ออกบัตรโดยสารก่อนวันที่ 19 มีนาคม 2563 และมีการเดินทางระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2563  

1. ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ในเส้นทางเดิมหรือรหัสชั้นโดยสาร (RBD) เดิม ในกรณีที่รหัสชั้นโดยสารที่ระบุบนบัตรโดยสารเดิมไม่มีที่นั่งว่างในเที่ยวบินที่ต้องการเปลี่ยน ผู้โดยสารต้องชำระค่าส่วนต่างและภาษี


2. ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางบินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม โดยจะต้องชำระค่าส่วนต่างและภาษี

3. การเปลี่ยนแปลงชื่อผู้โดยสาร สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง โดยมีค่าธรรมเนียม 500 บาท

4. บัตรโดยสารแบบหมู่คณะ (กรุ๊ปทัวร์) ค่ามัดจำต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ในภายหลังได้ (ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี)


ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 โดยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงก่อนวันเดินทางตามที่ระบุบนบัตรโดยสาร ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด ผู้โดยสารสามารถติดต่อทำการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสารได้ที่สำนักงานขายการบินไทยหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า  ประชาชนสามารถคืนเงินหรือเลื่อนตั๋วโดยสารเต็มราคาเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการคืนเงินแต่อย่างใด สำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วรายบุคคล ตั๋วหมู่คณะ ตั๋วสำหรับเช่าขบวนรถพิเศษโดยสาร และตั๋วเช่ารถโดยสารที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนวันที่ 18 มีนาคม 2563 พร้อมงดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์  12 ขบวน และขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศระหว่าง หาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ อีก 4 ขบวน  เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับหลักเกณฑ์การคืนตั๋วโดยสาร ดังนี้

1. การคืนเงินค่าตั๋วโดยสารโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการคืนเงิน (คืนเต็มราคา) เป็นกรณีพิเศษสำหรับตั๋วรายบุคคล ตั๋วหมู่คณะ ตั๋วสำหรับเช่าขบวนรถพิเศษโดยสารและตั๋วเช่ารถโดยสารที่ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าก่อนวันที่ 18 มีนาคม 2563 โดยต้องมายื่นก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 3 วัน (ไม่นับวันขบวนรถออกต้นทางตามตั๋วโดยสาร) 

2. ตั๋วโดยสารรายเดือน ตั๋วนำเที่ยว หรือตั๋วที่ซื้อด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถยื่นเอกสารคำร้องขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ

3. กรณีคณะบุคคลหรือหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้า ทั้งประเภทหมู่คณะประชาชนทั่วไป หรือหมู่คณะนักเรียน รวมถึงการเช่าขบวนรถพิเศษโดยสารและการเช่ารถโดยสารต่าง ๆ หากต้องการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง เนื่องจากสาเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อนุญาตให้มายื่นหนังสือระบุเหตุผลเพื่อขอเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้ไม่เกิน 90 วันนับจากวันเดินทางตามตั๋ว โดยไม่คิดค่าทำเนียมเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้(เป็นกรณีพิเศษ) แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังไม่คลี่คลาย ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้อีกครั้งละไม่เกิน 90 วันโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงการเดินทางจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดของโรคดังกล่าวจะหมดไป

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้ประกาศงดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ของวันที่ 10 – 11 เมษายน 2563 และวันที่ 15 – 16 เมษายน 2563 จำนวน 12 ขบวน รวมทั้งงดเดินขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศระหว่าง หาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มีนาคม 2563 จำนวน 6 ขบวน เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ขบวนรถ ประกอบด้วย รถพิเศษช่วยการโดยสาร เที่ยวไป : งดเดินวันที่ 10 -11 เมษายน 2563 จำนวน 6 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ 967  (กรุงเทพ – อุดรธานี),  ขบวนรถที่ 977  (กรุงเทพ – อุบลราชธานี) , ขบวนรถที่ 955  (กรุงเทพ – ศิลาอาสน์) 

รถพิเศษช่วยการโดยสาร เที่ยวกลับ : งดเดินวันที่ 15 – 16 เมษายน 2563 จำนวน 6 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถที่ 962  (ศิลาอาสน์ – กรุงเทพ), ขบวนรถที่ 934  (อุบลราชธานี – กรุงเทพ) , ขบวนรถที่ 936  (อุดรธานี – กรุงเทพ), ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45/46 (กรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพ) จำนวน 2 ขบวน งดเดินขบวนรถระหว่าง หาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ – หาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มีนาคม 2563, ขบวนรถพิเศษที่ 947/948 และ 949/950 (หาดใหญ่ – กรุงเทพ – หาดใหญ่) จำนวน 4 ขบวน งดเดินขบวนรถ ตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มีนาคม 2563

สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทาง สามารถติดต่อขอคืนตั๋วโดยสารได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานีทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย