ก.แรงงาน 19 มี.ค.-รองนายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการทุกหน่วยงานกวดขันเฝ้าระวัง ป้องกันการเผยแพร่โรคในกลุ่มแรงงานนอกระบบและเตรียมแผนรองรับแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบแห่งชาติ (คนช.) ครั้งที่ 1/2563 โดยมี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องสำคัญที่ได้ร่วมกันพิจารณาวันนี้ คือการให้ความเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการ ประจำปี 2563 ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ.2560-2564 และการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อประสานและขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ ให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พล.อ.ประวิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า แรงงานนอกระบบถือเป็นกำลังแรงงานประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นผู้มีงานทำ ส่วนใหญ่มีรายได้น้อย ต้องทำงานหนัก รวมทั้งต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆเช่น ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานที่ต่ำ การมีงานทำที่ไม่ต่อเนื่อง ขาดหลักประกันทางสังคม ไม่มีความปลอดภัยอาชีวอนามัยในการทำงาน ดังนั้น สิ่งที่ท้าทายรัฐบาลอยู่ในวันนี้ คือ การหาวิธีแก้ไขปัญหา และการบริหารจัดการกับกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีจำนวนมาก ให้มีอาชีพ มีงานทำ มีทักษะฝีมือ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนให้มีหลักประกันทางสังคมและความมั่นคงในชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน เข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ที่ได้เห็นชอบร่วมกันต่อไป
พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับในที่ประชุม ให้กระทรวงแรงงาน บูรณาการทุกหน่วยงานในกรมเฝ้าระวังและกวดขันการเผยแพร่โรคในกลุ่มแรงงานนอกระบบให้ป้องกันในเชิงรุก ให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้นเพราะหากมีการติดเชื้อในกลุ่มแรงงานจะแพร่กระจายออกไปในวงกว้างและสั่งการให้กระทรวงแรงงานเตรียมแผนรองรับสถานการณ์แรงงานในระบบที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต้องออกมาเป็นแรงงานนอกระบบ ซี่งจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่น แรงงานจากร้านอาหาร ซึ่งให้หาแนวทางช่วยเหลือ เยียวยา หาอาชีพรองรับเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื่องต้น เนื่องจาก ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์โควิด-19จะยุติลงเมื่อใด .-สำนักข่าวไทย