นครราชสีมา 18 มี.ค.- ผู้ว่าฯ-สสจ.โคราช แจงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 2 ราย เป็นหญิงอาชีพค้าขายกลับจากปอยเปต อีกรายเป็นนักศึกษาเดินทางจาก กทม. แพทย์ รพ.มหาราช ดูแลใกล้ชิด อาการไม่น่าห่วง พร้อมกักตัวผู้สัมผัสผู้ป่วย 83 ราย
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา แถลงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ล่าสุดจังหวัดนครราชสีมาพบผู้ติดเชื้อโควิด- 19 แล้วจำนวน 2 ราย เป็นหญิงอายุ 32 ปี อาชีพค้าขายเดินทางมาจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา และเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนที่จังหวัดนครราชสีมา มีอาการไข้และไอ ขณะเดียวกันทราบว่าเพื่อนชาวต่างชาติที่รับประทานอาหารด้วยกันอยู่ที่ปอยเปตก็ติดเชื้อโควิด-19 หญิงรายนี้จึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และพบว่าติดเชื้อดังกล่าวด้วย
ส่วนอีกรายเป็นนักศึกษาหญิง อายุ 22 ปี ขึ้นรถโดยสารเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มีอาการไข้และไอ ผลการตรวจเป็นบวก ซึ่งบุคคลทั้งสองนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์แล้วที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และแยกการกักกันตัวไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามผู้ที่สัมผัสกับหญิงที่ติดเชื้อทั้ง 2 คน รวม 83 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสกับนักศึกษา 52 ราย และแม่ค้า 31 ราย ส่วนรถโดยสารที่นักศึกษาเดินทางมานั้นมีการล้างทำความสะอาดและไม่ได้นำมาให้บริการประชาชน ขณะนี้ได้แจ้งให้ผู้ที่สัมผัสบนรถโดยสาร รวมถึงพ่อแม่และญาติกักตัวดูอาการ 14 วัน ล่าสุดยังไม่พบว่าญาติมีอาการเป็นไข้ ส่วนผู้ที่สัมผัสกับหญิงที่เดินทางมาจากปอยเปตได้สอบสวนโรคและกักตัวผู้ที่มีประวัติการสัมผัสไว้ 14 วันเช่นกัน ซึ่งการติดตามตัวผู้ที่มีประวัติการสัมผัสหรือว่าดำเนินการไปเกือบ 90%
นพ.นรินทร์รัชต์ กล่าวว่า ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย อาการไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมสอบสวนและแนะนำผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยรวมถึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และขอประชาชนทุกคนไม่อยู่ความประมาท ต้องรู้จักการป้องกันและหลีกเลี่ยงสถานที่มีกลุ่มคนอยู่มาก
นายวิเชียร ย้ำว่า ขอประชาชนอย่าตื่นกังวล เพราะหากมีการค้นพบได้เร็วก็สามารถรักษาให้หายได้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้คุมเข้มทุกพื้นที่และเข้าปฏิบัติการตามมาตรการกับผู้สัมผัสกับผู้ป่วยแล้ว อีกทั้งสถานพยาบาลมีความพร้อมในการรองรับสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย