สตช.ปรับแผนรองรับการแพร่ระบาดโควิด-19

กรุงเทพฯ 13 มี.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับแผนรองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้กับข้าราชการ-ครอบครัว รวมทั้ง ประชาชน 


พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมคอนเฟอเรนซ์ไปยังตำรวจทั่วประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ซึ่งการประชุมวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาปรับแผนรับมือ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้หลายภาคส่วนกังวลในการปฎิบัติหน้าที่ด่านแรก

ภายหลังการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง พันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 หลังจากมีการประกาศราชกิจจานุเบกษายกเลิกวีซ่า ประเทศจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี และ 2 เขตปกครองพิเศษ มาเก๊า และ ฮ่องกง ทำให้ผู้ที่จะเดินทางจากประเทศเหล่านี้จะต้องปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตเข้าประเทศไทย คือ มีใบรับรองแพทย์ และ ข้อมูลการกักตัว และต้องนำเอกสารดังกล่าวมายื่นให้สถานฑูตและสายการบินพิจารณา ก่อนจะอนุญาตให้เข้ามาในประเทศ โดยเชื่อว่าหากใช้มาตราการนี้จะทำให้ความเสี่ยงของบุคคลที่มีเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศลดน้อยลง  ส่วนคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง จะผ่านการตรวจคัดกรองโรคอย่างละเอียด ก่อนนำส่งกลับภูมิลำเนา กักตัวที่บ้าน 14 วัน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนตำรวจจะสนับสนุนการปฎิบัติงานทุกกรณี ซึ่งหากฝ่าฝืนก็จะมีความผิดตามกฎหมายต่อไป


พันตำรวจเอกจิรายุ วิสูตรานุกูล อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.ตำรวจ ให้ข้อมูลว่าในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจได้เตรียมพื้นที่สำหรับการรองรับตำรวจ-ครอบครัวตำรวจ และ ประชาชน ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการจัดเตรียอมห้องคัดแยกเพื่อป้องกันการปะปนและแพร่กระจายโรค เตรียมแผนสำรองหากมีผู้ป่วยเพิ่มก็จะขยายห้องเพิ่ม โดยจะมีการจัดลำดับตามความสำคัญ เพื่อความดูแลที่เหมาะสม ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นไปตามสิทธิการรักษาทั่วไปของผู้ป่วยแต่ละคน แต่ทางรัฐมีการจ่ายค่าใช้จ่ายในการส่งเชื้อตรวจในห้องแล๊ป (สำหรับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยโควิด 19 )

พลตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตราการปราบปรามจับกุม ผู้ที่กระทำความผิดซึ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โดยได้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก

การจับกุมเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ซึ่งสามารถจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา การกักตุนสินค้า การขายที่ไม่ด้อยคุณภาพ สามารถจับกุมได้แล้ว  88 รายมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยยึดหน้ากากอนามัยได้กว่า 2 แสนชิ้น และ ส่วนที่ 2 การนำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จในโซเชี่ยล ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมได้หลายคดีแล้ว มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


สำหรับประเด็นที่ประชาชนสงสัยเรื่องหน้ากากอนามัยของกลางที่ตำรวจยึดได้ให้นำมาแจกประชาชน พลตำรวจเอกกฤษณะ ระบุว่า หน้ากากอนามัยถือเป็นของกลางในคดีอาญา แม้ยึดมาได้กว่าแสนชิ้น ก็ไม่สามารถใช้การได้ เพราะสิ่งที่ยึดไว้จะต้องรอให้มีคำสั่งศาลให้ถึงที่สุดก่อน ถึงจะดำเนินการในขั้นถัดไปได้

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายบอย ที่โพสต์ข้อความอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ยืนยันว่าตำรวจอยู๋ระหว่างการสอบสวนทำคดีอย่างถึงที่สุดไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน หากสืบสวนพบว่ามีการกักตุนหน้ากากอนามัยจริงและมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีทันที ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือใครก็ตาม 

ส่วนกรณีที่ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่อยอาชญากรรมนำหลักฐานมามอบเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ว่ามีบริษัทเอกชน 14 บริษัท 1 ที่ปรึกษานักการเมือง และพรรคการเมืองต่างๆ เกี่ยวข้องกับขบวนการที่ทำให้หน้ากากอนามัยขาดตลาด เรื่องดังกล่าวพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างการพิสูจน์ข้อเท็จจริงซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบยืนยันว่าไม่เกี่ยวว่าผู้เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือใครก็ตาม หากมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และคงไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้อย่างละเอียดได้เพราะจะกระทบต่อการทำงานของตำรวจ

สำหรับประเด็นที่ลูกสาวอดีต ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของรัฐ ที่ยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พันตำรวจเอกกฤษณะ มองว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ อยากให้มองการงานในภาพรวมมากกว่า ยืนยันว่าทุกหน่วยมีความตั้งใจในการปฎิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ที่อนุสรณ์สถานรำลึกสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”