รพ.กรุงเทพ 12 มี.ค.-รพ.กรุงเทพ ยอมรับมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ รพ.กรุงเทพ ตรวจรอบ 3 จึงพบเชื้อ ยันให้การรักษาตามมาตรฐานปลอดภัยสูงสุด-สอบสวนโรคทีมแพทย์และบุคคลากร 77 คนแล้ว ไม่มีความเสี่ยง ทำงานได้ตามปกติ
ทีมผู้บริหาร โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมแถลงข่าวชี้แจงกรณีมีผู้ป่วยจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง เข้ามารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและจำเป็นต้องผ่าตัดที่โรงพยาบาลกรุงเทพ และต่อมาพบว่าติดเชื้อไวรัส 19 ซึ่งเป็นรายที่ 58 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศผู้ติดเชื้อในประเทศไทย
รศ.พญ.พรรณพิศ สุวรรณกูล ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกโรคติดเชื้อโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาด้วยอาการบาดเจ็บ กระดูกข้อมือแตก จากอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลังจากกลับจากประเทศญี่ปุ่น 2 วัน เบื้องต้นโรงพยาบาลได้ทำการแยกออกจากผู้ป่วยปกติและทำการตรวจไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง ก่อนพบว่าผลเป็นลบ ทั้งทางแพทย์จึงได้ประชุม เพื่อเตรียมผ่าตัด รักษาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากหากไม่รีบผ่าตัดจะทำให้เกิดพิการได้ ในระหว่างการผ่าตัด ทีมแพทย์ได้ใส่ชุดป้องกัน และอุปกรณ์ตามมาตรฐานสูงสุดในการป้องกัน จึงมั่นใจว่าไม่ติดเชื้อ และไม่สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่นได้
หลังผ่าตัดเสร็จได้แยกผู้ป่วยไปพักฟื้น ไปยังตึกที่เตรียมไว้เฉพาะผู้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกให้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งหลังผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลก็ได้กลับไปดูแลตัวเองที่พักอาศัย ในคอนโดมิเนียมที่อยู่คนเดียว
จนกระทั่งจนกระทั่งวันที่ 13 ของการกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทางโรงพยาบาลได้ตรวจอาการป่วยและเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งที่ 3 พบว่าผลเป็นบวกหรือว่ามีการติดเชื้อ แต่ยืนยันว่าคนไข้ไม่มีอาการไอจาม หรืออาการที่แสดงว่าติดเชื้อ เบื้องต้นตามหลักการระบาด คาดว่าผู้ป่วยน่าจะติดเชื้อมาจากต่างประเทศและตอนนี้ผู้ป่วยรายนี้ ได้เข้าสู่กระบวนการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขแล้วซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 58 ที่มีการประกาศไป
ในส่วนของโรงพยาบาลหลังจากพบว่าผู้ป่วยมีเชื้อโควิด-19 ได้มีสอบสวนโรค บุคลากรทางการแพทย์และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายนี้ทั้งหมดจำนวน 77 คน โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงมาก จะให้หยุดงาน 14 วัน ซึ่งไม่พบกลุ่มนี้ ส่วนกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อย จะให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ส่วนใหญ่ขอหยุดงาน 1-2 วันและกลับมาทำงานตามปกติแล้ว
พญ.เมธินี ไหมแพง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ ระบุว่าจากกระแสข่าว ใน Social Media ที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่แพทย์ที่เกี่ยวข้องกลับมาทำงานตามปกติโดยไม่กักตัว ยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ ปฏิบัติงานตามขั้นตอนและมาตรฐานการควบคุมและดูแลโรค โดยโรงพยาบาลดำเนินการตามมาตรฐาน มีการตรวจคัดกรองรวมทั้งแยกผู้ป่วยที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงออกจากผู้ป่วยปกติ ตั้งแต่เริ่มต้น
โดยมีการเตรียมตัว มีการสอบสวนโรค มีอุปกรณ์ในการป้องกันตัวในระหว่างการรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานขั้นสูงสุดจึงมั่นใจว่าเป็นกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงน้อยมาก จึงสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งมาตรฐานนี้เป็นการประเมินตามหลักการ ของสาธารณสุขไทยและสากล.-สำนักข่าวไทย