รัฐสภา 10 มี.ค.- “ชวน” ไม่ตอบพรรค ปชป. ควรถอนตัวจากรัฐบาลหรือไม่ โยนให้หัวหน้าพรรค – กก.บห.ตอบ ย้ำฐานะประธานสภาฯ ก้าวก่ายไม่ได้ หากกักตุนหน้ากากจริง ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขณะคณะกรรมการจริยธรรมสภาฯ พร้อมสอบกรณีข่าวโยงคนใกล้ชิดรัฐมนตรี
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางส่วนเรียกร้องให้ถอนตัวออกจากรัฐบาล เนื่องจากขัด 1 ใน 3 เงื่อนไขที่ตัดสินใจร่วมรัฐบาล จากกรณีบุคคลใกล้ชิดรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กักตุนหน้ากากอนามัย ว่า ต้องถามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่มีสิทธิ์หรือตำแหน่งใด ๆ ในพรรค รวมถึงความขัดแย้งภายในพรรคก็ต้องไปถามคู่ขัดแย้ง
ต่อข้อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ เหมือนในอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์เคยถอนตัวจากรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง คนละเหตุการณ์กัน ไม่สามารถตอบแทนหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกินขอบเขตหน้าที่
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวบุคคลใกล้ชิดรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กักตุนหน้ากากอนามัย นายชวน กล่าวว่า หากมีการร้องเข้ามา คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้มีเรื่องค้างอยู่หลายเรื่องที่คณะกรรมการชุดนี้ต้องตรวจสอบ เนื่องจากคณะกรรมการเพิ่งตั้งขึ้น อย่างไรก็ตามขอให้ดูข้อเท็จจริง อย่าดูเฉพาะข่าว เพราะหากไม่ได้ไตร่ตรองข้อเท็จจริง อาจเกิดความสับสน อย่าหูเบามากเกินไป ต้องใช้เหตุผลไตร่ตรอง แต่หากมีการกักตุนหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมจริง ก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ ไม่ใช่แค่การตรวจสอบทางจริยธรรม เชื่อว่าฝ่ายที่มีหน้าที่ เช่น กระทรวงพาณิชย์ ก็คงไม่ปล่อยไป
นายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่มีการสอบข้อเท็จจริง เพราะประชาชนจะได้รู้ ไม่เช่นนั้นเรื่องจะหายไป หากคนทำผิดไม่ได้รับผิดอะไรเลย ก็จะเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งเชื่ออะไรโดยไม่ไตร่ตรอง เพราะต้องดูตามข้อเท็จจริง ถ้าหากเป็นความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนห่วงใยสุขภาพอนามัย หากมีการกักตุนหน้ากากอนามัย ถือเป็นเรื่องเลวร้ายในสถานการณ์อย่างนี้ และต้องดำเนินการโดยเด็ดขาดตามกฎหมาย หากเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ส.ส. ทางสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องมีบทบาทเข้าไปดูเรื่องนี้ด้วย
นายชวน ยังกล่าวถึงการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า เชื่อความสามารถบุคลากรทางการแพทย์ของไทยว่าดีกว่าหลายประเทศ มีมาตรฐานสูง และเห็นด้วยว่าการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย ต้องจัดให้โรงพยาบาลและบุคลากรที่เกี่ยวข้องก่อน เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง แล้วค่อยแบ่งมาให้ประชาชนที่หลัง และเห็นด้วยกับแนวคิดของกระทรวงมหาดไทยที่ให้ประชาชนทำหน้ากากผ้าที่สามารถซักได้.-สำนักข่าวไทย