“ร.อ.ธรรมนัส” เผยรู้แล้ว ให้รอดูใครอยู่เบื้องหลังกักตุนหน้ากากอนามัย

ทำเนียบฯ 10 มี.ค.-“ร.อ.ธรรมนัส” ยันการกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น จะกระจ่างไม่เกินวันที่ 13 มี.ค.นี้  ตำรวจกำลังขยายผล เผยตอนนี้รู้แล้ว แต่พูดไม่ได้ ให้รอดูใครอยู่เบื้องหลัง เชื่อเป็นเรื่องการเมือง ยังไม่ได้คุยกับ “นายกฯ-พล.อ.ประวิตร” ถึงกระแสกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง


ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตคณะทำงานถูกกล่าวหาพัวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น ว่า ตอนนี้ความจริงปรากฎออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลแล้ว เดี๋ยวก็จะรู้ว่าใบออเดอร์สินค้ามีจริงหรือไม่ และอยู่กับใคร  รอติดตามพิสูจน์ความจริงตรงนี้ดีกว่า อีกไม่นาน 

“ตอนนี้ผมก็รู้แล้ว ภายในสัปดาห์นี้ก็กระจ่าง ไม่เกินวันที่ 13 มีนาคม นี้ ผมเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวมาจากเรื่องการเมือง ส่วนการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนายพิตตินันท์ รักเอียด นั้น จะทราบผลสรุปวันเดียวกันนี้ แต่เบื้องต้นผมได้ปลดออกจากคณะทำงานตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว


เมื่อถามว่าที่ระบุว่าไม่พบหน้ากากอนามัยอยู่จริง ได้ตรวจสอบหรือไม่ว่ามีของอยู่จริงก่อนหน้านี้ หรือมีการจำหน่ายออกไปแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่ามีการตัดต่อภาพ สื่อก็รู้ บอกได้เลยว่ามีการตัดต่อ และรู้เยอะกว่านี้ แต่พูดไม่ได้

“อยากเรียนสื่อมวลชนว่าการนำเสนอข่าว อะไรที่เป็นความจริงทำให้สังคมได้เห็น ก็ควรจะนำเสนอ โดยเฉพาะในเวลานี้ บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ควรนำข้อเท็จจริงมาเสนอ แต่กับนำเสนอประเด็นว่าจะอยู่ หรือจะลาออก ผมเห็นว่าเราน่าจะช่วยกันเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยกันกระชากหน้ากากว่าจริง ๆ แล้ว ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ คน ๆ หนึ่งพูดน้ำไหลไฟดับ คงไม่ธรรมดา ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ ซึ่งตอนนี้ผมรู้เยอะแล้ว ขอให้สื่อมวลชนเปิดเผยความจริงให้กระจ่าง อย่าไปอยู่ในเกมของการเมือง และโซเชียล” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นกระบวนการที่สร้างมาเพื่อโจมตีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ต้องพูด สื่อก็รู้กันอยู่แล้ว ว่าอะไรคืออะไร ต่อข้อถามว่าพรรคพลังประชารัฐ กดดันอะไรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ภายในพรรคนั้นคุยกันได้ ตนไม่ติดใจอะไร เป็นเรื่องภายในครอบครัว พปชร. ก็ต้องคุยกัน  ส่วนกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางคน เรียกร้องให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ตนไม่ก้าวล่วง


เมื่อถามถึงกระแสการปรับ ค.ร.ม.  ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กระแสจากใคร ไม่ได้ออกมาจากปากตน ตนยังมาทำงานตามปกติ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี  และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมมนตรี ในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย