ตร.คุมเข้มตรวจคนเข้าเมือง ป้องกัน”โควิด-19”

กทม.6 มี.ค.-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงมาตรการเข้มตรวจคนเข้าประเทศ ป้องกันโรค”โควิด-19” พร้อมเตรียมสถานที่กักตัว


พล.ต.ท. วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมกับ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และ พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2  แถลงมาตราการคุมเข้มตรวจคนเข้าเมืองป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 


พ.ต.อ. เชิงรณ เปิดเผยว่า หลังมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดต่ออันตรายกรณีโรค โควิด-19 พ.ศ.2563 จำนวน 4 ประเทศ ประกอบด้วย สาธารณรัฐเกาหลี , สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า เขตบริหารพิเศษฮ่องกง , สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยขั้นตอนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อมีการเดินทางถึงสนามบิน สายการบินต่าง ๆจะคัดกรองผู้โดยสาร โดยจัดที่นั่งเฉพาะตั้งแต่บนเครื่องบิน เมื่อลงจากเครื่องจะเข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองโดยเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หากมีไข้ จะคัดแยกตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ หากไม่มีไข้จะมีการบันทึกข้อมูลไว้ ส่วนกลุ่มแรงงานที่ถูกส่งกลับนอกจากจะเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตัว จะมีการสัมภาษณ์ บันทึกประวัติภูมิลำเนา เพื่อสามารถติดตามได้ ส่วนผู้เดินทางปกติ ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกช่องตรวจ คุมเข้มกรอกข้อมูลที่พักโดยละเอียด และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ โดยจะมีการสุ่มตรวจสอบเมื่ออยู่ในประเทศด้วย  ขณะเดียวกัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะสนับสนุนข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตัวผู้มีอาการไข้ในภายหลัง ทั้งข้อมูลที่นั่งและบุคคลที่นั่งโดยรอบ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัว การฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 10 นาที ทั้งจุดพิมพ์ลายนิ้วมือและส่วนที่มีการสัมผัส

พ.ต.อ. กฤษณะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอื่นทั่วประเทศ ทั้งด่านทางบกและทางน้ำ จะใช้มาตรฐานคัดกรองเหมือนด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบิน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ส่วนผู้ที่มาติดต่อหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งตรวจคนเข้าเมือง, สันติบาล เพื่อทำทะเบียนประวัติอาชญากร ขอให้ป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย และพกเจลล้างมือ  

ด้าน พล.ต.ท. วิฑูรย์  กล่าวว่า โรงพยาบาลตำรวจ มีหน้าที่หลักในการคัดกรอง แยกผู้ป่วยออกจากคนปกติ หากพบเป็นกลุ่มเสี่ยงและมีไข้ จะคัดแยกตัวออกมา หากเป็นกลุ่ม PUI (พี-ยู-ไอ) จะมีพื้นที่แยกจากคนไข้ทั่วไป ตรวจเสมหะ เพื่อตรวจว่ามีเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา มีกลุ่มเสี่ยงและมีอาการเข้ารับการตรวจอาการ 31 คน พบป่วย 1 คน โดยเป็นคนจีนมาจากเมืองอู่ฮั่น ปัจจุบัน ทั้ง 31 คน ไม่มีอาการ และไม่ได้พักอยู่ในโรงพยาบาลแม้ขณะนี้การแพร่ระบาดจะอยู่ระยะ 2 แต่ได้เตรียมแผนรองรับ หากสถานการณ์มากขึ้น โดยจะกั้นตึกไว้ เพื่อรองรับปัญหา 


ขณะที่ พล.ต.ต. สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผู้บังคับการกองสวัสดิการ เปิดเผยว่า ได้เตรียมบ้านพักบางละมุง ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น 80 ห้อง ไว้รองรับ กรณีกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีการสัมผัสผู้ป่วย ตลอดจน ประชาชนที่ต้องเฝ้าระวังอาการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน