กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – เลขาธิการส.ป.ก. ระบุ วางแนวทางพัฒนาที่ดินฟาร์มไก่ซึ่ง “ปารีณา” คืนสิทธิ์ถือครอง พร้อมส่งมอบสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดแล้ว คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีเตรียมพิจารณาอนุญาตให้เกษตรกร 70 รายที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายเข้าใช้ประโยชน์รายละ 2.5 ไร่
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานมีประกาศกำหนดพื้นที่เป้าหมายในอำเภอจอมบึงซึ่งจะนำที่ดินมาปฏิรูปที่ดินแล้วตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 โดยรวมถึงพื้นที่ 682 ไร่ซึ่งน.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐถือครองและมีหนังสือลงวันที่ 2 มกราคม 2563 ถึงเลขาธิการส.ป.ก. ส่งมอบที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณแปลงเขาสนฟาร์มคืนให้ ส.ป.ก. พร้อมอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินโดยไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งพร้อมที่จะรื้อถอนและขนย้ายทรัพย์สินในที่ดิน หาก ส.ป.ก.ไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์ภายในเวลาที่ ส.ป.ก. กำหนด
ล่าสุดส.ป.ก. ได้วางแนวทางการใช้ประโยชน์แปลงที่ดินเขาสนฟาร์ม โดยจะจัดให้เกษตรกร 70 ราย รายละ 2.5 ไร่เพื่อประกอบอาชีพตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมเนื้อที่ 175 ไร่ จัดทำแปลงรวมเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์ได้แก่ ไก่ หมู โคเนื้อ แพะ เป็นต้น ในรูปแบบสหกรณ์ โดยใช้นโยบายการตลาดนำการผลิตตาม รวมเนื้อที่ 300 ไร่ จัดสรรพื้นที่เพื่อทำระบบสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่ใช้สอยของเกษตรกรและชุมชน รวม 200 ไร่ประกอบด้วย แหล่งน้ำผิวดินและใต้ดินเพื่ออุปโภค-บริโภคและเพื่อการเกษตร เนื้อที่ 140 ไร่ รวมทั้งสร้างอาคารที่ทำการสหกรณ์ ลานเอนกประสงค์ ลานตาก และอื่นๆ เนื้อที่ 60 ไร่ ดังนั้นจึงจะส่งเจ้าหน้าที่สำรวจว่า อาคารและสิ่งปลูกสร้างใดยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ก็จะไม่รื้อถอน แต่ส่วนใดที่ไม่ใช้ประโยชน์แล้วต้องเป็นหน้าที่ของน.ส. ปารีณาในการรื้อถอนและขนย้ายออกไป
นายวิณะโรจน์ กล่าวต่อว่า แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการประกอบเกษตรกรรมนั้นประกอบด้วย 1. กิจกรรมเกษตรเพื่อยังชีพได้แก่ ปลูกผักเพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร จัดทำปุ๋ยใช้เองเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพาะเห็ดฟาง เลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก เลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงกบในกระชังบก 2. กิจกรรมเกษตรเพื่อการค้าได้แก่ เลี้ยงไก่ สุกร โคเนื้อ แพะ เป็นต้น จัดจำหน่ายวัสดุการเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่สมาชิกสหกรณ์ แปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยใช้วัตถุดิบและแรงงานในพื้นที่ และแปรรูปมูลสัตว์เป็นสินค้าจำหน่ายให้แก่ชุมชนซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในรูปแบบใหม่ของส.ป.ก.
ทั้งนี้ที่ดินซึ่งน.ส. ปารีณาถือครองนั้น สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี (ส.ป.ก.ราชบุรี) ตรวจสอบพบว่า ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ต. แก้มอ้น เบิกไพร ด่านทับตะโก ปากช่อง จอมบึง รางบัว อ. จอมบึง ต. ป่าหวาย ท่าเคย ตะนาวศรี อ. สวนผึ้ง และต. หนองพันจันทร์ บ้านคา บ้านบึง อ. บ้านคา จ. ราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2554 จาฏการนำชี้โดยเนื้อที่โดยผู้ปกครองท้องที่ประมาณการว่า เนื้อที่รวม 682 ไร่ พื้นที่ส่วนหนึ่งพบว่า ใช้ประโยชน์เป็นโรงเรือนเลี้ยงไก่ ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงโค อาคารบ้านพัก มีชื่อน.ส. ปารีณาในรายการจดทะเบียนนิติบุคคลในนาม “บริษัท ปารีณาไกรคุปต์ จำกัด” จดทะเบียนวันที่ 12 มิถุนายน 2561 โดยน.ส. ปารีณาเป็นกรรมการบริษัทผู้มีอำนาจลงนามแต่เพียงผู้เดียว มีใบรับรองมาตรฐานฟาร์มของบริษัท ปารีณาไกรคุปต์ จำกัด ที่ตั้งเลขที่ 109 หมู่ที่ 6 ต. รางบัว อ. จอมบึง อีกส่วนหนึ่งใช้ประโยชน์เป็นโรงเรือนเลี้ยงไก่ ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงโค อาคารบ้านพัก
นายวิณะโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส.ป.ก. ได้ดำเนินการนำที่ดินแปลงนี้เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินตั้งแต่พบการถือครองอย่างไม่ถูกต้องและผู้ถือครองขาดคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรตามกฎหมายส.ป.ก. โดยระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2562 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเข้าตรวจสอบพิกัดแนวเขตและตั้งคณะทำงานตรวจสอบกำหนดการใช้พื้นที่ ต่อมา ส.ป.ก.ราชบุรีมีหนังสือแจ้ง น.ส. ปารีณาเพื่อนัดหมายจัดทำรายการทรัพย์สินในที่ดินและจัดทำผังแปลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานของส.ป.ก. ในวันที่ 16 มกราคม 2563 แต่น.ส. ปารีณาไม่มาตามที่นัดหมายโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จึงทำหนังสือนัดหมายอีกครั้งให้มาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 แต่ก็ไม่มาอีก รวมทั้งไม่ได้มอบหมายผู้รับมอบอำนาจมาดำเนินการแทนด้วย ดังนั้นในวันดังกล่าวส.ป.ก. ราชบุรีและสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดินจึงใช้อากาศยานไร้คนขับตรวจสอบพื้นที่โดยการถ่ายภาพทางอากาศเพื่อนำมาประกอบการจัดทำผังสิ่งปลูกสร้างและผังแปลงที่ดิน
ส่วนการดำเนินคดี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้นำหมายศาลจังหวัดราชบุรีเข้าพื้นที่ที่เกิดเหตุโดยมีผู้ปกครองท้องที่นำชี้ขอบเขตที่ดินตามร่องรอยการใช้ประโยชน์เช่น แนวรั้วลวดหนาม สิ่งปลูกสร้าง โดยมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ราชบุรี และหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นพยาน ล่าสุดได้รับการประสานข้อมูลจาก บก.ปทส. กรณีที่กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีว่า มีการบุกรุกที่ดินตามกฎหมายการป่าไม้รวมเนื้อที่ 665-1-53 ไร่จากการรังวัดที่ดินของเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ อีกทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษน.ส. ปารีณาฐานบุกรุกครอบครองที่ดินรัฐและก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน ซึ่งพนักงานสอบสวน บก.ปทส. อายัดไว้เป็นของกลางในคดีแล้ว . – สำนักข่าวไทย
