กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – คมนาคมเตรียมรับมือผีน้อยกลับไทย สั่ง ทอท.เข้มมาตรการคัดกรอง สกัดโควิด-19 จัดรถตู้-รถทัวร์สแตนบายรอส่งกลับภูมิลำเนา พร้อมคุมผู้โดยสารจาก 2 เมือง “แทกู-คย็องซังเหนือ” ต้องโดนกักตัว 14 วันในพื้นที่รัฐกำหนด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเตรียมมาตรการเร่งด่วน เพื่อรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขั้นตอนการเตรียมการรองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐเกาหลี โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเกาหลี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.จะจัดหลุมจอดแยก ณ ท่าอากาศยานที่เที่ยวบินมาจากสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้ผู้โดยสารขาเข้าผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ณ ด่านควบคุมโรค บริเวณที่จัดไว้สำหรับเป็นพื้นที่คัดกรอง ซึ่ง ทอท.ได้จัดเครื่องเทอร์โมสแกนเพื่อคัดกรองผู้โดยสาร 3 จุด คือ บริเวณหน้า Gate หน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และด่านศุลกากร
ทั้งนี้ กรณีพบผู้โดยสารมีอาการป่วย มีไข้ สธ.จะดำเนินการต่อผู้ป่วยตามขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่ สธ.กำหนด ในส่วนกรณีผู้โดยสารไม่มีอาการป่วย ไม่มีไข้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะจัดรถส่งผู้โดยสารกลับภูมิลำเนา เมื่อถึงภูมิลำเนาจะมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย (มท.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจาก 2 เมือง ประกอบด้วย แทกู และคย็องซังเหนือนั้น จะต้องถูกกักกันให้พักอยู่ในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนดเป็นเวลา 14 วัน
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ทอท.ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) เพื่อประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ตม. ด่านควบคุมโรค โดยการใช้ประโยชน์จากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ในการเชื่อมข้อมูลพื้นฐาน และข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร ทำให้ระบบการคัดกรองมีความครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากปฏิบัติหน้าแต่ละวัน สธ.อาจนำข้อมูลจากระบบ APPS อาทิ ชื่อ-สกุล สนามบินต้นทาง สนามบินที่แวะเปลี่ยนเครื่อง หมายเลขที่นั่งของผู้โดยสาร หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรืออีเมลที่ติดต่อกับผู้โดยสาร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีอยู่ในระบบ APPS และระบบ Passenger Name Record (PNR) มาใช้ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาด และการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเสนอในที่ประชุม โดยการให้กักตัวผู้ที่จะเดินทางกลับไว้ที่เกาหลีเป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากแรงงานดังกล่าวเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเกาหลีต้องการส่งกลับไทยทันที ขณะเดียวกันเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วนั้น ในกรณีผู้โดยสารที่ไม่มีอาการป่วยนั้น ขบ.และ บขส. จะจัดรถเพื่อส่งกลับภูมิลำเนาในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก พร้อมทั้งมอบหมายให้จังหวัดลงทะเบียนรายชื่อบุคคลเหล่านั้น เพื่อที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สามารถติดตามบุคคลดังกล่าวว่าได้มีการกักกันตนเองภายในที่พัก 14 วันหรือไม่.-สำนักข่าวไทย