กรมสุขภาพจิต 2 มี.ค.-กรมสุขภาพจิตชี้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมก้าวผ่านวิกฤต “โควิด-19” ตระหนักถึง 2 คำ “สำนึกต่อสังคม-สังคมสมานฉันท์”
วันนี้ (2 มี.ค.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ประชาชนไทยต้องตระหนักว่าปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทยทุกคน ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนและกระทรวงสาธารณสุข การจัดการของประเทศ เพื่อให้การเข้าสู่การระบาดของโรคระยะที่ 3 เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ต้องให้เข้าสู่ระยะ 3 อย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อโรงพยาบาลแต่ละแห่งสามารถรับมือกับอาการเจ็บป่วยอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
กรมสุขภาพจิต อยากให้คนไทยทุกคนต่อสู้ด้วย “สติ” คือรับมือโรคนี้แบบ “ตระหนัก ไม่ตระหนก” โรคติดต่อไวรัสนี้สามารถป้องกันได้ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเจ็บป่วยมีวิธีการดูแลรักษาได้ แต่ก็เหมือนกับโรคทุกชนิดมีทั้งคนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหรือไม่รุนแรง โดยกรมสุขภาพจิตอยากให้ประชาชนตระหนักถึง 2 คำสำคัญ คือ สำนึกต่อสังคม (Social responsiveness) และ สังคมสมานฉันท์ (Social cohesion)
“สำนึกต่อสังคม” (Social responsiveness)หมายถึงการมีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมและการกระทำต่างๆของแต่ละบุคคล โดยทุกคนสามารถสร้างได้โดยดูแลสุขภาพตนเองให้ดี กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แนะนำให้ความรู้กับคนยังไม่รู้หรือให้ความช่วยเหลือแนะนำต่างๆให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางรัฐ หรือแหล่งที่เชื่อถือได้ ถ้าเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจ ให้ใส่หน้ากากอนามัย ไม่ปกปิดข้อมูล ต้องแจ้งทางการหรือปฏิบัติตามข้อแนะนำเมื่อมีความเสี่ยงต่างๆ ไม่เผยแพร่ หรือสร้างข่าวลวงที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง ไม่ไปในที่มีคนแออัด ถ้าเจ็บป่วยหรือสงสัยให้รีบไปพบแพทย์
“สังคมสมานฉันท์” (Social cohesion) หมายถึง การที่สังคมไทยต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลกัน ช่วยเหลือกัน ไม่รังเกียจผู้เจ็บป่วยหรือผู้เกี่ยวข้อง เพราะเราสามารถป้องกันตัวเองได้ สังคมต้องร่วมแรงร่วมใจ ปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ในการควบคุมและป้องกันโรค เชื่อมั่นในระบบของประเทศที่เราสามารถควบคุมป้องกันโรคที่ผ่านมาด้วยดีโดยตลอด เชื่อมั่นในศักยภาพและความทุ่มเทของบุคลากร ทางการแพทย์ในทุกระดับ ให้กำลังใจซึ่งกันและกันและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์
“กรมสุขภาพจิตคาดหวังการรณรงค์การสร้างสำนึกเพื่อสังคมและการสร้างสังคมสมานฉันท์จากคนไทยทุกคน แผนการควบคุมโรคที่กระทรวงสาธารณสุขวางไว้จะสามารถดำเนินจนสำเร็จได้ตามแผนวิกฤติการระบาดของโรคในประเทศไทยก็จะไม่รุนแรง และเกิดความสูญเสียน้อยที่สุด หากคนไทยไม่ร่วมมือกัน ความเสี่ยงในการเกิดการระบาดระยะที่ 3 ที่ควบคุมไม่ได้จะสูงขึ้น ซึ่งจะเกิดความสูญเสียอย่างมากตามมา เพราะฉะนั้นพวกเราจะก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันอีกครั้งด้วย การมีสำนึกต่อสังคม และการสร้างสังคมสมานฉันท์” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว .-สำนักข่าวไทย