กรุงเทพฯ 28 ก.พ. –ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา “บรรยิน ”และพวก เพิ่มเติม หลังผลตรวจ ดีเอ็นเอ อย่างไม่เป็นทางการพบ เป็นพี่ชายผู้พิพากษา
สำหรับคดีการอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษา ศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังวานนี้ (27 ก.พ.) พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.เรียกประชุมชุดสืบสวนกองปราบปราม เพื่อเร่งรวบรวมหลักฐาน ใน คดีดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่า ขณะนี้ คดีมีความคืบหน้าไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของชิ้นส่วนกระดูกกับกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่พบในผืนดินรกร้าง จ.นครสวรรค์ ยังไม่มีรายงานออกมาอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้มีรายงานในที่ประชุมว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้เน้นย้ำชุดทำงานให้เร่งพิสูจน์ทราบพยานแวดล้อม และยืนยันตัวบุคคลในภาพวงจรปิด ตลอดจนให้ชุดสอบสวนทำสำนวนให้รัดกุม ในส่วนของการคลี่คลายคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้สอบปากคำพยานในคดีการอุ้มฆ่าไปแล้ว 40 ปาก เหลืออีก 20 ปาก เพื่อที่จะรวบรวมสำนวนส่งฟ้องได้ โดยจากนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการประสานเพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบหาเงินจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินค่าจ้างในการก่อเหตุ หลังจากหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้ให้เงินจำนวน 2 แสนบาท กับ ส.จ.อ๊อด ก่อนที่จะแบ่งให้นายประชาวิทย์ และนายชาติชาย คนละ 5 หมื่นบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของชิ้นส่วนกระดูกบริเวณกะโหลกศีรษะที่พบในพื้นที่รกร้าง จ.นครสวรรค์ และคราบเลือดบนรถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่ใช้เป็นเป็นพาหนะในการก่อเหตุ มีผลอย่างไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า เป็นของนายวีรชัย แต่ผลการตรวจอย่างเป็นทางการจะออกมาภายในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจออกมาอย่างเป็นทางการจะนำมารวบรวมเพื่อประกอบนำสำนวน หากเป็นไปตามนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะแจ้งข้อหากล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย เพิ่มอีก 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเสี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ซ่อนเร้นอำพรางศพ และเรียกค่าไถ่ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย .-สำนักข่าวไทย