กทม.27 ก.พ.- ตำรวจ ปอท.จับหนุ่มหัวใสขายคลิปลามกอนาจารนักเรียนนักศึกษาในกลุ่มลับ สร้างรายได้เดือนละไม่ต่ำ 90,000 บาท
พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.แถลงจับกุม นายฐิฏิวัฒน์ มุ้ยแก้ว ผู้ต้องหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 พ่อค้าภัยสังคม เเอบขายคลิปภาพลามกที่ถูกแอบถ่ายในกลุ่มลับ พบหญิงสาวตกเป็นเหยื่อกว่า 100 คน โดยเข้าจับกุมและตรวจค้นบ้านพักในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบอุปกรณ์สื่อบันทึกข้อมูลของผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพแอบถ่ายกว่า 1,770 ไฟล์
คดีนี้ผู้ปกครองหลายรายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ว่า มีคนร้ายแอบถ่ายภาพ-คลิป หลุดของบุตรหลานที่เป็นผู้หญิง ตามที่สาธารณะแล้วนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกิดภาวะซึมเศร้าในบางราย
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายเปิดบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมาก จากนั้นนำข้อมูลภาพและคลิปวีดีโอที่มีลักษณะลามก มีเนื้อหาเป็นการแอบถ่ายบริเวณจุดซ่อนเร้นของสุภาพสตรีในพื้นที่สาธารณะกว่า 1,770 ไฟล์ อาศัยการทำงานที่สอดรับกันของบัญชีที่คนร้ายเป็นเจ้าของอย่างน้อย 3 บัญชี แบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจนคือ ใช้บัญชีที่เปิดเป็นสาธารณะโพสต์ข้อมูลรูปและคลิปที่มีลักษณะยั่วยวนน่าสนใจเพียงครึ่งเดียว เพื่อเป็นการประกาศโฆษณา และจูงใจให้อยากเข้าชมข้อมูลแบบเต็มในกลุ่มลับที่คนร้ายเป็นผู้ดูแลอยู่แลกกับค่าสมัครสมาชิกกลุ่มลับในราคา 350 บาท ขั้นตอนการสมัครนี้จะดำเนินการด้วยบัญชีอีกของคนร้ายอีกอันหนึ่ง เมื่อมีการโอนเงินให้กับคนร้ายแล้ว คนร้ายจึงจะอนุญาตให้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มลับและให้สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลรูป และคลิปแอบถ่ายทั้งกว่า 1,770 ไฟล์นั้นได้อย่างอิสระ วิธีการดังกล่าวนี้ สร้างรายได้ให้เดือนละกว่า 90,000 บาท จึงรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมคำร้องขออนุมัติหมายจับจากศาล และนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในที่สุด และได้ให้การรับสาราภพตลอดข้อกล่าวหาทั้งในชั้นจับกุมและสอบสวน
พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ระบุว่า จะตรวจสอบคลิปทั้ง 1,770 ไฟล์ เพื่อหาต้นทางของคลิปได้มาจากการรับซื้อจากบุคคลอื่นหรือถ่ายเอง เพื่อขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนนายฐิฏิวัฒน์มีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 /ส่วนผู้ที่แอบถ่ายคลิปจะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคนส่งคลิปต่อ หรือแชร์ต่อ ผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท.-สำนักข่าวไทย
