สวนสยามยังสู้ พิษโควิด-19 พ่นพิษ นักท่องเที่ยวลดฮวบ

สวนสยาม 25ก.พ.-พิษโควิด-19 สวนสยามนักท่องเที่ยวลดกว่าร้อยละ 50 ผู้บริหารเผยปีนี้ไม่หวังกำไรขอแค่ประคองตัว เตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้น ช่วงปิดภาคเรียน ขยายเวลาเปิดกลางคืน พร้อมยืนยันไม่ปรับคนออก เพราะยิ่งเป็นการซ้ำเติม





พล.ต.ท.เชษฐา โกมล วรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมดูแลสถานที่ท่องเที่ยวในสถานการณ์ภาวะวิกฤติเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่สยามอะเมซิ่ง พาร์ค หรือ สวนสยาม โดยมีนายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานคณะกรรมการกลุ่มสยามอะเมซิ่ง พาร์ค ให้ข้อมูล

พล.ต.ท.เชษฐา กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นนโยบายที่จะพยายามลงไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเพื่อติดตามแนะนำช่วยเหลือ และรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ ในช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19  ซึ่งสวนสยามมีมาตรการรองรับป้องกันดูแลรักษาความสะอาดที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว เพียงแค่แนะนำให้อาจเพิ่มรอบการทำความสะอาดเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น


ทั้งนี้ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ไปพาผู้ประกอบการท่องเที่ยวจุดสำคัญๆทั่วประเทศ พบว่าได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวหาย ร้อยละ 80-90  บางรายไปต่อไม่ไหวก็ต้องปิดกิจการ ซึ่งวันนี้ได้รับข้อเสนอแนะมาจากทางสวนสยามจะขอให้ทางภาครัฐงดเก็บหรือลดหย่อนการจัดเก็บภาษี สำหรับผู้ประกอบการในช่วงที่เจอวิกฤตเช่นนี้ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวจะได้รวบรวมข้อเสนอทั้งหมดนำเสนอต่อ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก่อนนำเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาต่อไป

ด้าน น.ส.นพกาญจน์ เหลืองอมรเลิศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สยามอะเมซิ่ง พาร์ค หรือ “สวนสยาม”กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาสวนสยามเริ่มเห็นภาวะลดมาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว เทียบสัดส่วนเฉพาะในเดือนมกราคม ปี2561 มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 108,680 คน ปี 2562 ลดเหลือ 77,434 คน ส่วนปีนี้ 2563 ลดฮวบเหลือ53,582 คน หรือเฉลี่ยต่อวันจากประมาณ 1,500 คนเหลือเพียง 700 คน หายไปเกินกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปี 2561 เป็นตัวเลขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ก่อตั้งสวนสยามเป็นเวลากว่า 40 ปี 

สำหรับลูกค้ากลุ่มหลักๆที่มาเที่ยวสวนสยามร้อยละ85 เป็นคนไทย ซึ่งตอนนี้ยอดหายไปเยอะมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางมาเป็นคณะเพื่อเดินทางท่องเที่ยวจัดเลี้ยง ตอนนี้มีทั้งเลื่อน และยกเลิกไปจนถึงเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนกลุ่มนักเรียนที่มาทัศนศึกษาเช้าเย็นกลับ ยกเลิกยาวอย่างไม่มีกำหนด ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ สัดส่วนร้อยละ15 หายไปทั้งหมดในตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นตะวันออกกลาง, อินเดีย , และรัสเซีย ส่วนจีนมีสัดส่วนเพียงร้อยละ3-4 ขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่ทราบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะกลับเข้ามาได้อีกเมื่อใด

น.ส.นพกาญจน์ กล่าวด้วยว่า ค่าใช้จ่ายที่สวนสยามต้องแบกรับในแต่ละปีอยู่ที่ 400ล้านบาทเพียงแค่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ขาดทุนไปแล้ว 20 ล้านบาท หลังจากนี้ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องเจอภาวะขาดทุนเพิ่มมากกว่าเดือนมกราคม ซึ่งในที่ประชุมพูดคุยกันว่าเลวร้ายที่สุดขอให้ตัวเลขคงที่เดือนละ 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่พอรับได้ แต่ก็พยายามมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก เน้นตลาดหลักคนในประเทศ 

โดยแผนแรกที่จะทำคือในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนสวนสยามจะขยายเวลาเปิดเพิ่มช่วงกลางคืนด้วย จากเวลา10.00-18.00 น.ขยายเป็น 10.00-22.00 น. และลดราคาบัตรเข้าเล่นสวนน้ำพร้อมเครื่องเล่น จาก 900 บาทเหลือ 500 บาท และหากใครที่มาหลังเวลา 16.00 น. จะลดราคาบัตรอีกให้เหลือ 300 บาท รวมทั้งจะชวนหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ร่วมจัดงานในช่วงปิดเทอม ทั้งประดับไฟอย่างยิ่งใหญ่ การแสดงในรูปแบบต่างๆ หวังดึงดูด กระตุ้นการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวให้มามากที่สุด โดยแคมเปญนี้จะเริ่ม ตั่งแต่วันที่ 12 มีนาคมถึง 10 พฤษภาคมนี้  ซึ่งแคมเปญนี้ จะช่วยได้มากขนาดไหนตนเองคงยังไม่กล้าที่จะคาดหวังเพียงแต่พยายามทำให้เต็มที่ที่สุด

ขณะที่นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานคณะกรรมการกลุ่มสยามอะเมซิ่ง พาร์ค กล่าวถึงกรณีจะมีการปรับลดจำนวนคนทำงานให้สอดคล้องกับภาวะนักท่องเที่ยวที่ลดหายไปหรือไม่นั้น ว่า  พนักงานได้เงินวันละ 300 บาท ก็แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละวันอยู่แล้ว ดังนั้นการจะให้ออกจากงาน ยิ่งเป็นการซ้ำเติมคนในภาวะเช่นนี้อีก จะพยายามช่วยเหลือแบกรับให้ไว้ได้นานที่สุด และคงจะไม่ต้องมาถามถึงยอดขายกำไรอะไร ในปีนี้ เพราะยังไงก็ไม่มีกำไรอยู่แล้ว คงจะพยายามประคองตัวไปให้ดีที่สุด เพราะหวังว่าสถานการณ์อาจจะกลับมาดีโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย