กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – PEA มั่นใจใช้บี 10 ลด PM 2.5 สนองนโยบายรัฐ ด้าน BGRIM มั่นใจลูกค้าขยายตัวแม้อุตฯ ไทยกระทบเศรษฐกิจโลก ด้านเอ็กโก้ตั้ง “กัมปนาท” ทำหน้าที่รักษาการ กก.ผจก.
นายชีวิน พัฒนคูหะ รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ ใช้น้ำมันดีเซลบี 10 กับรถที่พีอีเอ ใช้ในการให้บริการประชาชนกว่า 15,000 คันทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนองนโยบายรัฐในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลบี 10 แล้ว ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ได้ใช้น้ำมันที่สมรรถนะดีที่ได้รับการรับรองคุณภาพการใช้งาน โดยบี 10 ช่วยลดควันดำได้ร้อยละ 42 และช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ได้ร้อยละ 3.5หรือคิดเป็น 300 ตัน/ปี ในราคาที่ถูกกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดา (บี 7) ถึง 2 บาท/ลิตร/
ผู้สื่อข่าวรายงานจากการไฟฟ้ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งว่าอยู่ระหว่างสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป แทนนายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และล่าสุด เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศแต่งตั้งนายกัมปนาท บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ ให้ทำหน้าที่กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป จนกว่าคณะกรรมการบริษัทจะแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ต่อไป
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการปี 2562 อยู่ที่ 44,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20.6 และมีกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมอยู่ที่ 3,977 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 2,331 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนร้อยละ 25.1 เนื่องมาจากการขยายกำลังการผลิตถึงร้อยละ 40 จากโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งจากการเข้าซื้อกิจการและการพัฒนาโครงการใหม่ รวมถึงสามารถประหยัดเชื้อเพลิงจากการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันก๊าซของโรงไฟฟ้าจากพลังความร้อนร่วม 2 โครงการ และการลดต้นทุนทางการเงินจากการรีไฟแนนซ์เงินกู้ด้วย
ด้านมาตรการสำหรับการบริหารจัดการน้ำ น้ำส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมมาจากน้ำที่ผ่านกระบวนการ recycle หรือจากการบำบัดน้ำเสียและบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมอย่างรอบคอบ ทำให้มั่นใจว่าปริมาณน้ำสำรองในบ่อกักเก็บน้ำของนิคมอุตสาหกรรมเพียงพอต่อการเดินเครื่องไปจนถึงช่วงฤดูฝน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอุตสาหกรรมรายเดิมและลูกค้ารายใหม่
“บริษัทมีฐานลูกค้าระดับโลกที่มีความมั่นคงระดับสูงจำนวนมาก ทำให้ภาพรวมการขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2563 ยังคงแข็งแกร่ง ด้วยปริมาณการขายไฟระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันก่อนปีก่อน และยังมีลูกค้ารายใหม่อีกหลายรายที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 23 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดการทยอยเชื่อมต่อกับโรงไฟฟ้าของบริษัทในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ขณะเดียวกันยังคงมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากลูกค้าอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพมากกว่า 1,000 ราย ในนิคมอุตสาหกรรมที่มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของบริษัทตั้งอยู่ แต่ยังไม่ได้ให้บริการ” นางปรียนาถ กล่าว.-สำนักข่าวไทย