fbpx

น้องช่วยพี่เถียงตำรวจ อาจเจอข้อหาขัดขวางปฏิบัติหน้าที่

สมุทรปราการ 19 ก.พ.-น้องสาวอาจารย์มหาวิทยาลัย มาช่วยเถียงตำรวจกับพี่ ที่ขับรถชนคนเจ็บ 3 ส่อโดนข้อหาหนักฐานขัดขวางปฏิบัติหน้าที่ ส่วนคนพี่หลักฐานชัดเมาแล้วขับ


ความคืบหน้า คดีที่ตำรวจสภ.พระประแดง รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์วอลโว่ที่มีดร.วิชญ์ วณิชพัทธ์ อายุ 48 ปี เป็นอาจารย์อยู่ในมหาวิยลัยแห่งหนึ่ง เป็นผู้ขับขี่ชนรถจักรยานยนต์ของตำรวจสายตรวจ สภ.พระประแดง และเสียหลักพุ่งชนรถข้างทาง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในจำนวนนี้เป็นนายตำรวจ 2 นาย และเจ้าของร้านข้าวต้มที่เป็นหญิงสูงอายุ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วานนี้บริเวณใกล้กับปากซอยสุขสวัสดิ์ 47 ตำบลลัดหลวง อำเภอพระประแดง และเมื่อตำรวจได้เชิญดร.วิชญ์ ลงจากรถเพื่อทำการสอบสวน แต่ดร.วิชญ์ ไม่ยอมลงจากรถ อ้างว่าขอรอน้องสาวก่อน และเมื่อน้องสาวมาถึงที่เกิดเหตุดร.วิชญ์ ได้พยายามจะขับรถของน้องสาวออกจากจุดเกิดเหตุ เมื่อตำรวจพยายามขัดขวาง ไม่ให้ออกจากจุดเกิดเหตุ เพราะสังเกตุเห็นว่าดร.วิชญ์ มีอาการคล้ายคนเมาสุรา ทำให้น้องสาวของเข้ามาต่อว่าตำรวจและเกิดการโต้เถียงกันขึ้น อ้างว่าตำรวจทำรุนแรงกับพี่ชาย และเมื่อตำรวจเชิญดร.วิชญ์ ไปทำการเป่าตรวจปริมาณแอลกอฮอล์พบมีปริมาณสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ขณะที่น้องสาวของดร.วิชญ์ ได้ลงบันทึกประจำวันเช่นกันว่าถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย


ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าได้รับรายงานจาก ภ.จว.สมุทรปราการแล้วว่า รถยนต์ที่มีดร.วิทย์เป็นคนขับ ซึ่งมีอาการมึนเมา ได้ไปชนกับรถยนต์ที่จอดขายน้ำ กับคนที่ยืนขายอาหารริมทาง แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ยอมลงจากรถ ไม่ยอมเรียกประกัน เมื่อนองสาวดร.วิทย์ มาจึงพยายามหลบหนีจึงเข้าไปขัดขวางไว้ แต่น้องสาวของผู้ต้องหาก็เข้ามาขัดขวางไม่ให้ ตำรวจ เข้าไปแตะต้องพี่ชาย จนมีปากเสียงกัน จนสุดท้าย ยอมไปที่โรงพยาบาล แต่ยืนยันจะเดินทางไปเอง จึงมอบหมายให้สายตรวจนั่งไปในรถของน้องสาวผู้ต้องหาด้วย แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ผู้ต้องหากลับไม่ยอมลงจากรถ จึงให้ไปที่ สภ.พระประแดง เพื่อลงบันทึกประจำวัน และเป่าวัดปริมาณแอลกอฮลล์ ผลวัดได้ 145 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตำรวจจึงข้อหาความผิดฐาน “เป็นผู้ขับขี่รถขณะเมาสุราเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย” กับผู้ต้องหา ในส่วนของน้องสาวที่เข้ามาทำการขัดขวางเจ้าพนักงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการตรวจ ว่าเข้าข่ายความผิดในการขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงานหรือไม่ หากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้ประชาชนผู้ที่เสพข้อมูลจากสื่อหรือคลิปต่างๆ เปิดรับข้อมูลให้ครบทุกด้าน ก่อนตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อ เมื่อดูคลิปในลักษณะดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด