BIG STORY : ญาติเศร้า รับศพเหยื่อคมกระสุนอดีตสามี

กรุงเทพฯ 19 ก.พ.- ตำรวจเตรียมดำเนินคดี 5 ข้อหากับผู้ต้องหาก่อเหตุยิงอดีตภรรยาเสียชีวิตในห้างสรรพสินค้า ขณะที่ญาติเดินทางเข้ารับศพด้วยความโศกเศร้า และมีการเปิดเผยด้วยว่า ผู้เสียชีวิตเคยถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเพราะปมหึงหวงมาแล้ว ด้านผู้ก่อเหตุร่ำไห้บอก “เสียใจ และไม่อยากทำ”


ครอบครัวและญาติของ น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย ซึ่งถูกอดีตสามียิงเสียชีวิตในคลินิกเสริมความงาม ห้างสรรพสินค้าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วานนี้ (18 ก.พ.) เข้ารับศพที่โรงพยาบาลรามาธิบดี บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพราะทุกคนทำใจกับการสูญเสียไม่ได้ ขณะที่ญาติเตรียมนำศพกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาที่บ้านเกิดใน จ.ตาก


สำหรับผู้ก่อเหตุครั้งนี้ คือ นายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ ถูกติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดใน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา หลังหนีไปกบดานซ่อนตัว แต่ไม่ได้ไปก่อเหตุยิงเพื่อนชายคนสนิทของอดีตภรรยาตามที่เขียนไว้ในจดหมายลาตาย ชุดสืบสวน สน.พญาไท นำแม่ของผู้ต้องหาไปช่วยเกลี้ยกล่อมตั้งแต่เวลา 21.00 น.วานนี้ กระทั่ง 04.00 น. ผู้ต้องหายอมวางอาวุธและมอบตัว ระหว่างที่ตำรวจปิดล้อมเจรจา มีรายงานว่าคนร้ายขู่ว่าจะยิงตัวตายหนีความผิดตลอดเวลา ทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนสามารถนำตัวมาสอบปากคำ พร้อมอาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ และกระสุน 32 นัด  


จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง เพราะหึงหวง ส่วนที่มีการระบุไว้ในจดหมายว่าจะมีการล้างแค้นชายคนสนิทของอดีตภรรยานั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีเจตนาจะทำร้ายร่างกายจริงหรือไม่ แต่หลังก่อเหตุขับรถยนต์พยายามหลบหนีและไปหาบิดา ส่วนอาวุธปืนพบว่ามีใบอนุญาตครอบครองจริง แต่จะส่งไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับคดีอื่นอีกครั้ง

สำหรับข้อหาของนายดนุสรณ์ ถูกแจ้งดำเนินคดี 5 กระทง ประกอบด้วยฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ

ผู้ต้องหาเปิดปากครั้งแรกอ้าง “เสียใจ และไม่อยากทำ”

ล่าสุด พนักงานสอบสวนนำตัวนายดนุสรณ์ ออกจากห้องสืบสวน เพื่อไปคุมขังต่อที่ สน.พญาไท หลังจากถูกสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเช้านานกว่า 7 ชั่วโมง และเช้าวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) จะถูกนำตัวไปฝากขัง ระหว่างที่ผู้ต้องหาเดินออกมา สื่อมวลชนพยายามเข้าไปสอบถาม ผู้ต้องหาถึงกับร้องไห้ บอกแต่คำว่า “เสียใจ”

พี่สาวเหยื่อเผยน้องสาวถูกทำร้ายร่างกาย-ขู่ฆ่า

ขณะที่พี่สาวของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนคดี พร้อมระบุว่า น้องสาวต้องการหย่าร้างกับผู้ต้องหามานานกว่า 5 ปี เพราะทนไม่ไหวกับการถูกทำร้ายจนบอบช้ำ เพราะความหึงหวง อีกทั้งฝ่ายชายมีปัญหาหนี้สินและไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูลูก จนน้องสาวเคยหนีไปอยู่ชลบุรีมาแล้ว กระทั่งถูกโทรศัพท์ขู่ฆ่าคนในครอบครัว ทำให้น้องสาวต้องจำใจกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง และทุกครั้งที่กลับไปอยู่ด้วย จะถูกห้ามติดต่อกับครอบครัว

ผู้ก่อเหตุโทรหาแม่ยาย ทำทีเหมือนไม่ได้ก่อเหตุ

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ จ.ตาก ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เดินทางไปที่บ้านเกิดของ น.ส.ปิยานุช ที่บ้านท่าไผ่ ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตจัดเตรียมสถานที่บำเพ็ญกุศล

ด้านนางตุ๋ย ฉัตรไทย อายุ 59 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากที่นายดนุสรณ์ ก่อเหตุ ปรากฏว่าเมื่อเวลา 19.00 น. โทรศัพท์มาหาเพื่อถามถึงอาการของลูกสาว ทำทีเหมือนไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์ แต่ขณะนั้นตนเองทราบแล้วว่านายดนุสรณ์ เป็นคนก่อเหตุ จึงด่ากลับไปว่าเหตุใดต้องทำร้ายกัน ก่อนวางสายไป ทั้งนี้ ยอมรับว่าทำใจกับเหตุการณ์ไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย ทั้งที่อยู่กินกับลูกสาวมา 10 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ จึงอยากให้ได้รับโทษประหารชีวิต และไม่ต้องมาขอขมาศพ เพราะไม่อยากเห็นหน้า

แม่ของผู้เสียชีวิตกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ปรากฏว่านายดนุสรณ์ โทรมาหาลูกชายวัย 7 ขวบ ซึ่งตนเองได้สอบถามหลานไปว่าพ่อพูดคุยอะไรบ้าง หลานชายบอกว่า ให้เป็นเด็กดี อย่าดื้อ ให้เชื่อฟังตากับยาย แต่ก็คิดไม่ถึงว่าในช่วงบ่ายวันถัดมาจะเกิดเหตุสลด ทั้งนี้ พิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิตกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”