ธอส.มอบเงินสินไหมทดแทนให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่โคราช

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – ธอส.ร่วมมอบสินไหมทดแทนโครงการประกันสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โครงการคุ้มนิรันดร์ ให้แก่ผู้เอาประกันที่ได้รับความคุ้มครองหลังจากเสียชีวิตในเหตุการณ์ร้ายแรงที่โคราช


กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมด้วยผู้แทนของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบสินไหมทดแทนโครงการประกันสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โครงการคุ้มนิรันดร์ ให้แก่ผู้เอาประกันที่ได้รับความคุ้มครองหลังจากเสียชีวิต ในเหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อปลดภาระหนี้ สินเชื่อที่ค้างชำระตามทุนประกัน ช่วยให้ที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทหรือครอบครัว โดยสมบูรณ์หรือลดภาระหนี้ให้เหลือน้อยที่สุด ล่าสุดพบลูกค้าของ ธอส. เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 6 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ทั้งนี้ ธอส. จะมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวของลูกค้าธนาคารที่เสียชีวิตทั้ง 6 ครอบครัว

 


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) พร้อมด้วยผู้แทนของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) และ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบสินไหมทดแทนโครงการประกันสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โครงการคุ้มนิรันดร์ ให้แก่ผู้เอาประกันที่เป็นลูกค้าของธนาคารจำนวน 2 ราย ซึ่งได้รับความคุ้มครองหลังจากเสียชีวิตในเหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 โดยบริษัทประกันชีวิตจะมอบความคุ้มครองด้วยการจ่ายเงินทดแทนเพื่อช่วยลดหรือปลดภาระหนี้สินที่ค้างชำระธนาคารอยู่ในขณะนั้น ตามเงื่อนไขความคุ้มครองและระยะเวลาเอาประกัน เพื่อให้หลักประกันเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทหรือครอบครัวต่อไป แบ่งเป็น กรณีนางสาวอาริยา กลีบเมฆ ผู้เอาประกัน บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) ได้มอบเงินสินไหมทดแทนจำนวนเงินรวม 1,418,528.96 บาท ตามกรมธรรม์ของนางสาวอาริยา กลีบเมฆ ที่ได้รับความคุ้มครองหลังจากเสียชีวิต เพื่อปลดภาระหนี้ สินเชื่อที่ค้างชำระทั้งหมด ช่วยให้ที่อยู่อาศัย ที่เป็นหลักประกันสินเชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทหรือครอบครัวโดยสมบูรณ์ และกรณี ด.ต.ชัชวาล แท่งทองผู้เอาประกัน บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินสินไหมทดแทน จำนวน 1,317,570 บาท ตามกรมธรรม์ โดยธนาคารจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปลดภาระหนี้ในบัญชีของ ด.ต.ชัชวาล แท่งทอง ต่อไป และจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่ามีลูกค้าของธนาคารรวมทั้งสิ้น 2 ราย จากทั้งหมด 6 ราย ที่เป็นผู้เสียชีวิตและทำประกันตามโครงการคุ้มนิรันดร์ที่ยังไม่สิ้นสุดความคุ้มครอง นอกจากนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวของลูกค้าธนาคารทั้ง 6 ครอบครัว ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว  ธอส. จึงจะมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท อีกด้วย

 

“ธอส. ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของลูกค้าของธนาคารทั้ง 6 ครอบครัว ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และเป็นกำลังหลักของครอบครัวที่จากไปอย่างกระทันหัน ซึ่ง ธอส. พร้อมที่จะดูแลคนที่อยู่ข้างหลังของผู้เสียชีวิตให้ภาระหนี้หมดไปหรือให้เหลือภาระน้อยที่สุด ซึ่งในกรณีที่เสียชีวิตธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยคงที่เหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ที่คงเหลือ หรือกรณีบาดเจ็บสาหัสลดอัตราดอกเบี้ยคงที่เหลือ 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาทิ จากเดิมที่เคยผ่อนชำระงวดละ 16,000 บาท ก็จะทำให้เงินงวดผ่อนชำระจะลดลงมาเหลือเพียง 2,800 บาทเท่านั้น” นายฉัตรชัย กล่าว


 

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ธอส. ได้ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของธนาคารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย 1.กรณีเสียชีวิต ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ที่คงเหลือ 2.กรณีบาดเจ็บสาหัส ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี คงที่เป็นระยะเวลา 5 ปี และ 3. พิจารณาสินไหมเร่งด่วน (Fast track) สำหรับลูกค้าที่เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวและทำประกันสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในโครงการคุ้มนิรันดร์ บริษัทประกันชีวิตจะมอบความคุ้มครองโดยจ่ายจำนวนเงินทดแทนเพื่อช่วยลดหรือปลดภาระหนี้สินที่ค้างชำระธนาคาร ตามเงื่อนไขความคุ้มครองและระยะเวลาเอาประกัน เพื่อให้หลักประกันเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาทหรือครอบครัวต่อไป และปัจจุบันพบว่ามีลูกค้าของ ธอส. เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 6 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สาขาของ ธอส. ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์  (Call  Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง