สธ.ทดลองนำแอนติบอดี้แท็กซี่หายป่วยมารักษา

สธ.  10 ก.พ.-  สธ. แถลงผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนาในไทยดีขึ้น เตรียมย้ายหญิงชาวจีนวัย 71 ปี ที่รักษาตัวใน รพ.ราชวิถี ออกจากห้องแยกโรค มารักษาต่อในห้องทั่วไป พร้อมปรับมาตรการควบคุมโรคเพิ่มเติม ขณะนี้เริ่มทดลองนำเลือดของแท็กซี่ที่เพิ่งหายจากโรค มาปั่นเอาน้ำเหลืองมาสกัดเป็นแอนติบอดี้ สร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ป่วยคนอื่น


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป และ รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า สถานการณ์ภาพรวมอาการของผู้ป่วยโคโรนาในไทยคงที่ คงมีผู้ป่วย 32 คน รักษาหายแล้ว 10 คน  นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 22 คน  ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดนี้เป็นคนไทย 9 คน. คนจีน 23 คน. การทำงานจากนี้ จะเน้นการเฝ้าระวังในกลุ่มคนไทยมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การป่วย เริ่มพบสัดส่วนของคนไทยและจีน เท่ากันที่ร้อยละ 50 อีกทั้งเป็นการประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่อัตรานักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยลดลง ทำให้การควบคุมเฝ้าระวังโรค ต้องมุ่งไปจับในกลุ่มคนไทย ที่ทำงานติดต่อสัมพันธ์กับคนจีน


นพ.โสภณ กล่าวว่า จากข้อมูลการแปลข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาว่าติดในทางอากาศ เป็นการแปลที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งการติดเชื้อนี้ พบว่า เกิดขึ้นได้จากการไอจาม แต่ละอองฝอยที่เกิดขึ้น พบว่ามีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะตกลงอยู่กับพื้นที่ไม่ฟุ้งกระจาย ในระยะ 1 เมตรเท่านั้น การสวมหน้ากากอนามัยป้องกันทำได้  และควรมีการไอจามให้ถูกวิธี แต่ข้อมูลที่ระบุว่าเกิดการติดเชื้อได้ทางอากาศ แสดงว่า ต้องละอองฝอยขนาดน้อยกว่า 5 ไมครอน และอยู่ในสถานที่ปิด พบได้ตามโรงพยาบาล ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ดังนั้นบุคลาการทางการแพทย์ จึงต้องสวมเครื่องป้องกัน 

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวว่า จากข้อมูลจาก CDC จีนที่ให้การรักษาและควบคุมโรคนี้ พบว่า ละอองฝอยของเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นละอองฝอยขนาดใหญ่ การฟุ้งกระจายของละอองฝอยที่เกิดจากการไอจาม แตกต่างกัน ละอองขนาดเล็กฟุ้งกระจายง่ายและเร็ว พบได้ในคนไข้ที่มีอาการหนัก ในห้องผู้ป่วย ที่มีการใช้เครื่องดูดเสมหะ แต่ขนาดใหญ่จะตกอยู่กับพื้นที่ ฉะนั้น บุคคลที่มีหน้าที่ทำความสะอาดต้องระมัดระวังตัว การสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ จะช่วยในการป้องกันโรค 

รศ.(พิเศษ) นพ. ทวี กล่าวว่า สำหรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาที่มีอาการรุนแรง ขณะนี้เริ่มมีการทดลองนำเลือดของแท็กซี่ที่เพิ่งหายจากโรค มาปั่นเอาน้ำเหลืองมาสกัดเป็นแอนติบอดี้ สร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ป่วยคนอื่น โดยนำไปฉีดให้กับผู้ป่วย 2 คนที่เป็นคนไทย มีอาการรุนแรง คือ คนขับรถบัส ที่ป่วยวัณโรค ร่วมกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และ ผู้ป่วย เพศชาย อายุ 33 ปี เนื่องจากมีอาการรุนแรง เพิ่งเริ่มทดลองให้ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ก.พ.) โดยจะมีการติดตามอาการภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อดูว่าการให้แอนติบอดี้ ได้ผลหรือไม่ ทั้งนี้ การฉีดแอนติบอดี้ของคนที่หายป่วย เข้าไปในร่างกายของผู้ป่วยจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเป็นการทดลองรักษา หวังว่าจะให้ผลดี   


รศ.(พิเศษ) นพ. ทวี กล่าวว่า สำหรับมาตรการของไทย หลังจากที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยน้อยลง และมีทางการจีนห้ามเดินทางกว่า 10 วันแล้ว จากนี้ จะเน้นการเฝ้าระวังในกลุ่มคนไทยที่ทำงานเกี่ยวข้องกับทัวร์ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ที่ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทาง ได้แก่ เชียงใหม่ กทม.และปริมณฑล ชลบุรี และกระบี่ หรือ กลุ่มคนที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง เพื่อเฝ้าระวัง เพราะทิศทางการควบคุมโรคเปลี่ยนไป เมื่อไม่มีนักเดินทางเช่นเดียวกับทั่วโลก คาดการณ์ว่าต่อไป จะพบคนป่วยไข้หวัด 200,000 คนต่อวัน หากเป็นเช่นนั้นจริง จะทำให้อัตราการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น จึงให้มีการแยกคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดร่วมด้วย และ ขอให้ทุกคนหมั่นล้างมือเมื่อไปที่สาธารณะ หากอยู่ในที่แออัดควรสวมหน้ากากอนามัย ผูุ้้ที่ป่วยควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อแสดงความรับผิดชอบ 

นพ.ณรงค์ อภิกุลวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยคนไทย ที่กลับมาจากอู่ฮั่น อาการดีขึ้น เช่นเดียวกับหญิงชาวจีนอายุ 71 ปี ที่รพ.ราชวิถี อาการดีขึ้นแล้วเช่นกัน โดยผลตรวจเป็นลบ เตรียมให้ย้ายมารักษาในห้องทั่วไปในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.)  และมาตรการควบคุมโรคจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.)จะเสนอให้มีการแยกคัดกรองโรคไข้หวัดออกจากโรคระบบทางเดินหายใจอื่น เพื่อให้การตรวจเฝ้าระวังไม่ปะปน และง่ายแก่การคัดแยกโรค .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย