5 ก.พ. – ถือได้ว่าคนไทย 138 ชีวิต ที่เดินทางจากอู่ฮั่นถึงไทยครบ 24 ชั่วโมงแล้ว การเดินทางกลับเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ภาพความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานต่าง ๆ สร้างความประทับใจ วันนี้เพจ Army times Thailand โพสต์บทความพร้อมรูปในหัวข้อ “ผมไม่ใช่ฮีโร่” มีเนื้อหาว่า ผมไม่ใช่ฮีโร่แต่คือ จนท.กต. และคุณหมอผู้ดูแล 138 คนไทยอย่างใกล้ชิด
นักบินเที่ยวบินแห่งค่ำคืนพิเศษคือ กัปตันมูญ เจริญลอย หนึ่งในทีมปฏิบัติการ เล่านาทีประสานงานและนาทีทะยานจากน่านฟ้าไทยถึงอู่ฮั่น และทุกๆ นาทีจนเครื่องแลนดิ้งรันเวย์สนามบินอู่ตะเภา
เมื่อทราบว่าต้องไปรับคนไทยจากอู่ฮั่น ก็พร้อมมีการประชุมด่วนกับคณะทำงานของรัฐบาล ที่มีทั้งทีมแพทย์ ท่าฯ ตม.ทหาร ที่กรมกงสุล แบ่งหน้าที่กันทำตามความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ส่วนวันเวลา รอคอนเฟิร์มจากจีน
ขอให้เป็นความลับนะ ท่านอธิบดีบอกก่อนเลิกประชุม ผมเหลือบไปเห็นไลน์เด้งขึ้นมา เลยตอบไปว่า ไม่ลับแล้วล่ะครับ มีการแถลงแล้วว่าไปวันที่ 1 ทุกคนในห้องถอนหายใจดังเฮ้อ…คนจะไปยังไม่รู้เลยว่าจะไปวันไหน…ผมคิดในใจ
หลังได้รับไฟเขียวจากจีนว่าคือวันที่4 การนัดหมายโหลดของการเดินทาง สถานที่รับตัวคนไทยถูกสรุปในวันนั้น และทุกอย่างถูกกำชับให้เป็นความลับ แต่…มีคนเงยหน้ามาบอกว่า…ทุกคนรู้แล้วว่าเราจะไปลงอู่ตะเภา…ข่าวลงแล้ววันที่ 3 ทางทีมแอร์เอเชีย…ถูกนัดหมายให้ไปซ้อมการใส่ชุดป้องกัน (PPE) เพราะหมอบอกว่าการใส่น่ะง่าย แต่การถอด…อาจทำให้ติดเชื้อได้
เช้าวันที่ 4…ออกเดินทาง มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบทั้งขาไปและกลับ…เมื่อเดินทางถึงทุกคนต้องรีบทำธุระส่วนตัว ก่อนที่รับผู้โดยสาร ใช้เวลาคัดกรองและบอร์ดเกือบ 6 ชม. ทำไมต้องทำขนาดนั้น…
1.เราต้องมั่นใจว่า คนที่อาจมีอาการ หรือติดเชื้อ ต้องถูกแยกไปนั่งต่างหาก และใช้ห้องน้ำที่แยกไว้ให้
2.คนที่มีแข็งแรงแต่อยู่พื้นที่เสี่ยง ต้องนั่งอีกโซน
3.กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มเสี่ยงน้อย จะจัดนั่งข้างหน้า
หลังจากการตรวจอันยาวนาน…ตอนแรกให้ ผดส.แค่น้ำ 2 ขวด แซนด์วิช เจลล้างมือ ในแผนจะไม่มีการบริการอาหารร้อน แต่…โชคดีจริงๆ ที่มีน้ำ และอาหารสำรอง จากแผนไม่เสิร์ฟระหว่างเที่ยวบิน ต้องมาทำ Fulservice น้องๆ ลูกเรือ ต้องอุ่นอาหารแบบด่วน ทายสิครับ ใครจะเป็นคนเสิร์ฟ…
ทีมหมอและพยาบาลสิครับ แม้แต่…ผอ.บำราศนราดูร ก็ได้ทดลองอาชีพสจ๊วตครั้งแรก คุณหมอ พยาบาล ที่ข้างล่างคนเรียกอาจารย์ วันนี้ต่างทำหน้าที่บริการอาหารอย่างแข็งขัน หมอจิตเวช และเจ้าหน้าที่ กต. ทุกคนช่วยกันเอนเตอร์เทน ผดส. ตลอดเวลา…เพื่อลดความเครียดที่รอกลับบ้านเป็นเวลานาน ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างสุดยอดจริงๆ
ผมไม่รู้ว่า…เมื่อคืนนี้ ผดส. ผมได้นอนเมื่อไหร่ ทีมหมอและ กต. ได้กินข้าวมั้ย เพราะผม…แอบนำทีมลูกเรือหลบมาก่อน ผมยอมรับในหัวใจของคุณหมอ และ กต.ชุดนี้จริงๆ ทำงานหนักตลอดวัน อย่างมีพลังและร่าเริงตลอดเวลา ลูกเรือผมก็เช่นกัน
ถ้าจะมีใครถูกเรียกว่าฮีโร่…นั่นคือพวกเขาครับ ขอซูฮก…ทีมคุณหมอ และเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ทั้งสองคนด้วยใจจริง จบการทำงาน…18 ชั่วโมงอันยาวนานครับ.
Day 0 – 1 วันก่อนเดินทางสู่ประเทศไทย
ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร นักเรียนไทยในจีนที่เดินทางกลับมากลับเที่ยวบินนี้ โพสต์รายงานสถานการณ์ตามมุมมองของเขาเอง เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ได้รับการแจ้งเรื่องการเดินทางกลับไทยและนัดพบอย่างละเอียดในวันที่ 4 ก.พ. ให้ทุกคนเดินทางไปพบกันที่สนามบินเทียนเหอ มีสัมภาระไม่เกินคนละ 7 กิโลกรัม เพราะจะไม่มีการโหลดไว้ใต้เครื่อง การเดินทางไปสนามบิน แต่ละคนจะมีวิธีการเดินทางที่แตกต่างกันไป บางคนมีญาติไปส่ง บางคนเช่ารถไปเอง ส่วนผมนั้นมหาวิทยาลัยมีรถไปส่ง จึงไม่มีปัญหา แต่การเดินทางเข้าเมืองอู่ฮั่นยากมาก เนื่องจากเมืองถูกปิด และมีการตั้งด่าน รถที่จะผ่านที่ระบุเลขทะเบียน ชื่อผู้ขับ แต่ปัญหาในด้านเอกสารและการผ่านทางเจ้าหน้าที่จากสถานทูตได้ช่วยกันแก้ไขจนราบรื่นไปด้วยดี ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากสถานทูตอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย