3 ก.พ.-กบร.ไฟเขียวแผนรักษาความปลอดภัย-อำนวยความสะดวกในการบินพลเรือนแห่งชาติ จ่อลงนามภายในสัปดาห์นี้ สั่ง กพท.เตรียมรับมือ ICAO เดินทางมาตรวจ 11-21 ก.พ.63
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 1/2563 ว่า ที่ประชุมได้เตรียมความพร้อมในการเดินทางมาตรวจมาตรฐานด้านความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ในวันที่ 11-21 ก.พ. 2563
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ตรวจร่างแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ และแผนอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือนแห่งชาติตามที่ได้มีการแก้ไขปรับปรุง พร้อมทั้งมีมติอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการลงนามภายในสัปดาห์นี้ เพื่อประกาศใช้ต่อไป ขณะเดียวกัน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในฐานะเป็นฝ่ายเลขาฯ จะนำไปประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ ประชาชน สายการบิน และผู้ประกอบการต่างๆ รับทราบถึงการปรับปรุงแผนในครั้งนี้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง และเป็นไปตามมาตรฐาน ICAO
นอกจากนี้ ได้รายงานผลการเข้าร่วมประชุมกับสำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) ภายใต้โครงการ Technical Assistant ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้สำเร็จภายในปีนี้ โดยได้มอบหมายให้ กพท. ไปจัดทำกรอบระยะเวลา (Timeline) และแผนปฏิบัติการณ์ (Action Plan) ให้ชัดเจนว่า จะดำเนินการเรื่องใดบ้าง ทั้งนี้ ตามที่ กทพ. จะต้องไปแก้ไขปรับปรุง 26 เรื่องนั้น กพท. อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขอีก 10 เรื่อง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสามารถจะดำเนินการเสร็จได้ทันเวลา เพื่อให้มาตรฐานการบินของไทยกลับไปสู่ระดับ Category 1 (CAT 1) ซึ่งเป็นระดับการรับรองของสากล
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้มีการนำเสนอเรื่องการดำเนินการที่จะรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่กำลังเผชิญในขณะนี้ คือ การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งที่ประชุมมีมติมอบหมายให้ กพท. เป็นผู้ประสานงานอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ยังได้หารือถึงมาตรการการเฝ้าระวัง และแผนรองรับของแต่ละสายการบินที่จะเดินทางมาในประเทศไทย กรณีหากมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา รวมถึงแนวทางการปฏิบัติของท่าอากาศยานต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม กพท. จะต้องไปบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมแพทย์ทหาร เป็นต้น เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสโคโรนากระทบกับประเทศไทย
“ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศว่า กระทรวงคมนาคมพร้อม และไม่แค่กระทรวงนี้ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานทางทหาร ที่ได้มีการบูรณาการเรื่องนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องขออภัยในบางเรื่องที่เป็นข้อมูลในการปฏิบัติที่มีความจำเป็นที่ต้องรักษาเป็นความลับ ไม่สามารถแถลงต่อสาธารณะได้ โดยไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังข้อมูลอย่างใด เพราะทั้งหมดกระทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนคนไทย และต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยการดำเนินการทั้งหมด ยึดตามหลักเกณฑ์และมาตรการต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด และเป็นไปตามมาตรฐานของสากลด้วย” นายศักดิ์สยาม กล่าว.-สำนักข่าวไทย