สธ. 2 ก.พ.-สธ.จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 8 คนไปรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น 4ก.พ.นี้ พร้อมจัดสถานที่ 3-4 แห่งควบคุมตัว 14 วัน ส่วนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนามีจำนวน 19 คนเท่าเดิม รักษาหายและกลับบ้านแล้ว8 คน โดยนำยาต้านไวรัสเอดส์กับยาต้านไวรัสหวัดมาร่วมรักษาด้วย พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วม “บิ๊กคลีนนิ่ง” ดูแลบ้านให้สะอาด ป้องกันเชื้อโรค
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในวันที่4 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมไปรับคนไทยในอู่ฮั่นแล้ว โดยในส่วนกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทำหน้าที่ในการควบคุมป้องกันโรคเต็มที่ โดยเตรียมทีมแพทย์ด้านฉุกเฉิน จิตแพทย์ แพทย์ระบาดวิทยา รวม 8 คน และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยทำตามมาตรฐานในการเฝ้าระวังควบคุมโรค14 วัน ซึ่งสถานที่ในการควบคุมเตรียมไว้ประสาน 3-4 แห่ง แต่รอระยะเวลาในการหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อนจึงสามารถแถลงรายละเอียดได้ พร้อมย้ำขณะนี้ไม่จำเป็นต้องประกาศห้ามนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย เพื่อควบคุมโรค เนื่องจากสัดส่วนนักท่องเที่ยวในปัจจุบันน้อยลงอยู่แล้ว
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนคนไทยทั้งประเทศ ร่วมกันแก้ไขปัญหาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 “บิ๊กคลีนนิ่ง” ดูแลบ้าน สภาพแวดล้อม เพื่อให้สิ่งแวดล้อมสะอาด ปลอดจากเชื้อโรคที่มาจากละอองฝอย ส่วนการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อพบว่า การรักษาดีไม่มีผู้เสียชีวิต โดยมีการนำยาต้านไวรัสเอดส์กับยาต้านไวรัสหวัด มาร่วมรักษาด้วย
นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการรักษาคนไข้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา และนำสูตรยาทั้ง 2 ชนิดมารักษา พบว่าคนไข้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง พบว่าเชื้อโคโรนาไวรัสจากผลบวกกลายเป็นลบ ผู้ป่วยไข้ลด ทานอาหารได้ จากเดิมก่อนหน้านั้น 10 วัน อาการแย่ลงเรื่อยๆ และมีค่าการอักเสบสูง โดยสูตรยาการรักษา ใช้ตามวิธีการรักษาของโรคเมอร์สใน อดีต มาปรับใช้ ก็พบว่าได้ผลดี
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่2019 ยืนยันพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 19 คนเท่าเดิม ในจำนวนนี้รักษาหายและกลับบ้านแล้ว 8 คน ที่เหลืออีก11 อยู่ระหว่างการติดตามรักษาอาการในห้องแยกโรคปลอดเชื้อความดันต่ำของโรงพยาบาล มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม-1กุมภาพันธ์ 2563 สะสมทั้งหมด 382 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 71 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 311 คน
ส่วนกรณีเคสผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตอนแรกตรวจไม่พบเชื้อและพบอาการปอดอักเสบในภายหลัง รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กล่าวว่า อาจเป็นได้ที่การตรวจครั้งแรกพบเชื้อตัวอื่นหรือการเก็บตัวอย่างเชื้อไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ป่วยคนดังกล่าวอาการดีขึ้นแล้ว
ขณะที่ในช่วงบ่าย นายอนุทิน พร้อมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมติดตามอาการและให้กำลังใจคนจีนและคนไทย ที่อยู่ระหว่างการติดตามอาการในห้องแยกโรคปลอดเชื้อความดันต่ำของสถาบันบำราศนราดูร เพื่อรอผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการส่งเข้ามาที่สถาบันฯ แล้วกว่า 60 คน มี7คน ที่กลับบ้านได้แล้ว เนื่องจากผลแล็บทั้ง 2 แห่งยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อ
ส่วนกรณีคนขับแท็กซี่ ที่แพทย์เฝ้าดูอาการอยู่ในขณะนี้ ยังต้องรอผลตรวจจากแล็บแห่งที่2 หากผลออกมาเป็นลบ ก็ให้กลับบ้านได้ โดยคนใกล้ชิดในครอบครัวตอนนี้ยังไม่พบใครมีอาการป่วย
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาน้อยลง ลดไปถึงร้อยละ80 ทำให้คัดกรองจะทำได้ง่ายขึ้นและแม่นยำถูกต้องมากขึ้น ในภาพรวมการควบคุมการระบาดในไทยถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ อยากให้คนไทยมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย พร้อมย้ำคนไทยกว่า150คน ในอู่ฮั่นที่กำลังจะไปรับกลับประเทศพวกเขาไม่ใช่ผู้ป่วย อย่าไปรังเกียจ กล่าวหาว่าจะนำเชื้อโคโรนาแพร่มาสู่คนไทย .-สำนักข่าวไทย