สธ.แจงหญิงจีนดับปริศนาที่เชียงใหม่

สธ.29 ม.ค.-สธ.แจงหญิงจีนดับปริศนาคารีสอร์ต จ.เชียงใหม่ ไม่เข้าข่ายสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เหตุไม่มีไข้ ไอ อาการปกติดี แต่จะมีการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อเพื่อควมชัดเจน


นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์  ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 1กล่าวถึงนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนเสียชีวิตภายในรีสอร์ต แห่งหนึ่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และมีภาพบุคลากรสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันอย่างรัดกุม แพร่ในโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความวิตกถึงการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แล้วทำให้เสียชีวิตทันที ว่า  การสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันเข้าไปดำเนินการกับร่างผู้เสียชีวิต ไม่ได้แปลว่าผู้เสียชีวิตติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่เนื่องจากยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด การสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันก็เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของตัวบุคลากรเองด้วย ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับช่วงนี้หากมีคนจีนเสียชีวิตก็คงต้องป้องกันไว้ก่อน 


ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตก็ต้องมาชันสูตรต่อไปว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือการเสียชีวิตแบบทันทีทันใดแบบนี้ คงไม่น่าเกิดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อย่างที่กังวล เพราะโรคติดเชื้อไม่ได้ทำให้เสียชีวิตในทันที จะต้องมีอาการรุนแรงนาน 10-20 วัน ข้อมูลของผู้เสียชีวิตในประเทศจีน  ก็ล้วนมีอาการรุนแรงและ อยู่โรงพยาบาลเป็นเดือนถึงเสียชีวิต


นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เชียงใหม่ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวจีน อายุ 32 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตพบว่า นอนหมดสติบนเตียงของเช้าวันที่ 29 ม.ค.เมื่อโทรแจ้ง 1669 พบว่า เสียชีวิตที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเพื่อนผู้ป่วยแจ้งว่าผู้ป่วยไม่มีอาการผิดปกติมาก่อน แต่ได้ดื่มสุราหนักตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 28 ม.ค.แล้วนอนประมาณ 3-4 ทุ่ม จากนั้นพบนอนหมดสติอยู่บนเตียงตอนเช้า 

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตมีประวัติเดินทางมาจากเมืองกว่างโจว วันที่ 28 ม.ค. 2563 บินตรงมาลง จ.เชียงใหม่ ถึงช่วงประมาณ 08.00-09.00 น.โดยเดินทางมาคนเดียวและมาพบเพื่อนที่รีสอร์ต 4 คน ทุกคนอาการปกติ อย่างไรก็ตาม หญิงชาวจีนรายนี้ไม่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพราะไม่มีอาการไข้ ไอ แต่เพื่อความสบายใจและความชัดเจน ทีมระบาด สสจ.เชียงใหม่ จะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อปอดส่งตรวจสาเหตุว่ามีการติดเชื้ออะไรหรือไม่  และวางแผนผ่าศพพิสูจน์หาสาเหตุ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการชันสูตรประมาณ 2 วัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย