28 ม.ค. -กรุงเทพฯ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2020” โดยมีตัวแทนภาครัฐ และเอกชน คณะทำงานจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้สนับสนุนหลัก หน่วยงานภาครัฐ ผู้สนับสนุนรายย่อย และผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ เข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมจัดการแข่งขันมีความคืบหน้าไปด้วยดี ทุกฝ่ายเร่งเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ผลักดัน และยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ยั่งยืนตามมาตรฐานสากล การกีฬาแห่งประเทศไทยขอขอบคุณภาครัฐ และเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศอีกครั้ง เพราะการจัดงานกีฬาระดับ World Event เช่นนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งเหล่าอาสาสมัครจิตอาสาชาวบุรีรัมย์ที่เข้ามาพร้อมกับหัวใจที่จะดูแลแฟนมอเตอร์สปอร์ต เติมเต็มให้งานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในทุกด้าน ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยทำสถิติผู้ชมสูงสุดในโลกติดต่อกันทั้งสองปี โดยปี 2019 ยอดผู้ชมงาน สูงสุดกว่า 226,655 คน สำหรับปีนี้คาดว่าความนิยมจะเพิ่มสูงขึ้น ยอมรับว่า มีความยากของงานมากขึ้น เนื่องจากปีนี้ขยับมาแข่งขันเร็วขึ้น มีเวลาเตรียมงานน้อยลง เป็นโจทย์ให้กับคณะทำงาน ทำงานหนักขึ้น ให้งานในปีนี้ออกมาดีที่สุดและพร้อมที่สุด เพื่อให้ครองใจคนทั่วโลก สำหรับการประชุมครั้งนี้ จึงเป็นซักซ้อมความเข้าใจและการเตรียมงานด้านต่างๆในปี 2563 ให้กับทุกภาคส่วน โดยนำบทเรียนที่ผ่านมา ปรับสู่มาตรฐานการจัดงานที่สูงสุด และจะรักษาแชมป์ สนามที่มีผู้ชมสูงที่สุดของฤดูกาล 3 ปีติดต่อกันได้อย่างแน่นอน”
นาย ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า นอกจากเกมส์การแข่งขันที่เช้มข้นในสนามแล้ว ไฮไลท์ปีนี้อยู่ “อเล็กซ์ มาร์เกซ” ที่ซึ่งมาร่วมทีมกับเรปโซล ฮอนด้า สร้างประวัติศาสตร์นักแข่งพี่น้องคู่แรกที่ลงแข่งในทีมเดียวกันในประวัติศาสตร์โมโตจีพี รวมทั้ง 2 นักแข่งไทย ได้แก่ ก้อง “สมเกียรติ จันทรา” จากเอ.พี.ฮอนด้า ลงแข่ง Moto2 เต็มฤดูกาล และ ในการแข่งขันสนามที่ 2 “เขมินทร์ คูโบะ”จากไทยยามาฮ่า ได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ด ลงแข่งในฐานะตัวแทนนักบิดของไทย
ทั้งนี้ ภาคความบันเทิงสำหรับแฟนโมโตจีพีปีนี้ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เราได้เตรียมศิลปินดังชื่อ พร้อมกิจกรรมมากมายตลอด 3 วันเต็ม เชื่อว่า กิจกรรมปีนี้จะยิ่งใหญ่และจัดเต็มกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรม “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ เอ็กซ์โป” ซึ่งจัดเต็มตลอดสุดสัปดาห์ รวมทั้งร้านค้าต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน