กทม. 24 ม.ค. – ราคาทองคำในปีหนู ตั้งแต่ต้นปีมา ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ทำให้ราคาทองคำในประเทศพุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี อยู่ที่ 22,800 บาท สวนทางกับกำลังซื้อในประเทศที่ยังชะลอตัว ทำให้ตรุษจีนปีนี้ราคาทองคำสูงขึ้นกว่าตรุษจีนในปีที่ผ่านมา
ทองคำรีดแผ่นบาง ขนาดน้ำหนัก 1 กรัม บรรจุอยู่ในกล่องรูปทรงกระเป๋าสตางค์สีแดง ให้ความหมายเรียกทรัพย์รับเทศกาลตรุษจีน เซตนี้จำหน่ายในราคา 2,600 บาท เป็นราคาที่ไม่สูงมาก แต่ถือเป็นของขวัญที่มีมูลค่า มีความหมายที่เป็นมงคล และด้วยรูปทรงที่คล้ายอั่งเปา จึงเป็นทางเลือกสำหรับมอบให้เป็นของขวัญแทนอั่งเปาเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้
นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ค้าทองต่างต้องปรับกลยุทธ์การขายทอง ทั้งการปรับขนาดน้ำหนักทองคำให้เล็กลง โดยขนาดน้ำหนักต่ำสุดอยู่ที่ครึ่งสลึง เพื่อให้คนซื้อทองได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการออกแบบรูปลักษณ์ให้ทันสมัยและหลากหลายเหมาะกับช่วงเทศกาลและโอกาสต่างๆ
ขณะที่ทิศทางราคาทองคำช่วงไตรมาส 1 จะมีราคาสูงขึ้นกว่าช่วงอื่นอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล และเป็นช่วงที่มีการใช้จ่ายสูง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมทั้งสถานการณ์ค่าเงินบาท ที่จะส่งผลต่อราคาทองคำให้ปรับขึ้นได้ โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ให้กรอบราคาทองคำในปี 63 อยู่ที่ 1,450-1,650 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือไม่เกิน 23,000 บาทต่อบาททองคำ
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนทองคำ ผู้ค้าทองคำแนะให้นักลงทุน เน้นลงทุนระยะสั้น เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนและความผันผวนสูง แต่ทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ ของนักลงทุน. – สำนักข่าวไทย