กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – นายกสมาคมค้าทองคำ มองแนวโน้มราคาทองคำยังเพิ่มต่อ ย้ำกระแสข่าวเก็บภาษีฉุดตลาดทอง ศูนย์กลางซื้อขายทองหลายประเทศยกเลิกหมด
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มต่อ โดยในภาคเช้า (16 ก.ย.) ปรับเพิ่มถึง 400 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่ง ขายออก 55,300 บาท ราคารับซื้อ 55,200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 56,100 บาท ราคารับซื้อ 54,090 บาท เนื่องจากตลาดคาดการณ์เฟดปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันพรุ่งนี้ และทราบผลในเช้าวันพฤหัสบดี ยอมรับในระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง เพราะราคาทองคำปรับเพิ่มต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 68 นับว่าเพิ่มขึ้นแล้ว 3,000 บาท ในระยะยาวทองคำยังมีโอกาสปรับเพิ่มต่อได้อีก จากหลายปัจจัย เพราะตลาดมองว่าเฟดนัดถัดไปอาจลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก
นายจิตติ กล่าวว่า กรณีสมาคมค้าทองคำ เข้าหารือกับ ธปท. หลังจากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง และแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี โดยเงินบาทแข็งค่านำหลายประเทศในภูมิภาค ธปท. ขอให้ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบการร้านทอง รายงานข้อมูลการซื้อขายให้ละเอียดมากขึ้น ทางผู้ประกอบการพร้อมให้ความร่วมมือกับ ธปท. ยอมรับว่าการส่งออกทองคำไปยังกัมพูชา เป็นลูกค้าสำคัญของไทยมานานแล้ว เพราะไทยเป็นศูนย์ซื้อขายทองในภูมิภาค และเป็นการซื้อขายผ่านระบบธนาคาร มีการยืนยันตัวตนตรวจสอบได้ชัดเจน และแจ้งสำแดงส่งออกไปกัมพูชาอย่างถูกต้อง หากกลุ่มเงินสีเทาจะไม่กล้าเข้ามาซื้อขายในระบบ เรื่องส่งออกทองมาดังช่วงนี้เพราะมีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสมาคมผู้ค้าทองคำไม่ได้มีข้อเสนอกลับไปยัง ธปท. เพิ่มเติมอีก
ส่วนกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจเรียกเก็บภาษีในการซื้อขายทองคำนั้น มองว่าปัจจุบันตลาดทองคำและสินค้าอัญมณีของไทย พัฒนามาไกลมาก เทียบกับตลาดศูนย์ซื้อขายทองของประเทศพัฒนาแล้วระดับโลก จนกลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายของภูมิภาค หากมีการเก็บภาษีจะเป็นการถอยหลังเข้าคลอง ซ้ำเติมปัญหายิ่งกว่าประเทศกัมพูชา ขณะที่ตลาดศูนย์ซื้อขายทองคำและอัญมณีในตลาดประเทศพัฒนาแล้วได้ยกเลิกการเก็บภาษีซื้อขายนานแล้ว จึงมองว่าเป็นเพียงการศึกษา เพราะทางการคงไม่ดึงตลาดทองให้ถอยหลังเหมือนกับประเทศด้อยพัฒนา.-515-สำนักข่าวไทย