บวท.ระบุนักท่องเที่ยวจีนบินเที่ยวไทยลดลง

กรุงเทพฯ 24 ม.ค.-วิทยุการบินฯ เผยตรุษจีนปีนี้นักท่องเที่ยวจีนบินเที่ยวไทยลดลงร้อยละ 3.71 ขณะที่การระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นอีกปัจจัยเสี่ยง คาดจะมีผลกระทบด้วย


นายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. เปิดเผยว่า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า บวท.ได้คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินภาพรวมของประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 24 – 30 มกราคม 2563 ลดลงจากช่วงเทศกาลตรุษจีนเมื่อปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.71 ทั้งนี้ จากการประเมินพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเปลี่ยนเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศญี่ปุ่น ขณะที่การเดินทางมาประเทศไทยถือเป็นอันดับ 2 ของการเดินทางท่องเที่ยวต่างแดนในช่วงเทศกาลตรุษจีนของนักท่องเที่ยวชาวจีน 

สำหรับในช่วงตรุษจีนวันที่ 24-30 มกราคม 2563 ซึ่งตรงกับวันหยุดราชการของสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมีปริมาณเที่ยวบินรวมทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศ เที่ยวบินภายในประเทศ และเที่ยวบินที่ทำการบินผ่านน่านฟ้าประเทศไทย 21,199 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 3,028 เที่ยวบิน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีนเมื่อปีที่ผ่านมา (4 -10 ก.พ.62) มีปริมาณเที่ยวบินโดยรวม 22,015 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 3,145 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 3.71 เนื่องจากการเติบโตแบบชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของปริมาณเที่ยวบินในประเทศตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ประกอบกับการเปลี่ยนเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนเที่ยวบินของจีนที่เดินทางมาประเทศไทยมีจำนวน 3,261 เที่ยวบิน


ขณะที่เที่ยวบินของจีนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น 3,899 เที่ยวบิน ซึ่งคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนเป้าหมายในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีแนวโน้มเช่นนี้ทั้งปี ทำให้ปริมาณเที่ยวบินของจีนมาประเทศไทยลดลงเป็นอันดับ 2 รองจากการไปประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ อีกปัจจัยที่สำคัญ คือ ปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วทั้งทวีปเอเชียที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง ทำให้ปริมาณเที่ยวบินในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2563 ลดลงตามไปด้วย

สำหรับปริมาณเที่ยวบินภาพรวม ณ สนามบินหลักของไทยที่มีปริมาณเที่ยวบินสูงสุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2563 จำนวน 5 อันดับ ประกอบด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ 7,784 เที่ยวบิน สนามบินดอนเมือง  5,541 เที่ยวบิน สนามบินภูเก็ต 2,547 เที่ยวบิน สนามบินเชียงใหม่ 1,733 เที่ยวบิน และสนามบินสมุย  611 เที่ยวบิน 

อย่างไรก็ตาม บวท.ยังคงรักษามาตรฐานและคงไว้ ซึ่งการบริการบนพื้นฐานของความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยได้ปรับเปลี่ยนตารางการบินให้เหมาะสมกับปริมาณเที่ยวบินและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสายการบินที่ทำการบินในช่วงเวลานี้ให้ถึงที่หมายด้วยความปลอดภัยด้วย


ส่วนการระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ด้านปฏิบัติการ) บวท. กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากจีนลดลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตัวเลขต่าง ๆ ยังเป็นตัวเลขประมาณการ ซึ่งต้องมีการติดตามตัวเลขของผู้โดยสารที่ลดลงจากปัจจัยการระบาดของโรคฯ ทั้งหมดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง