ผบ.ตร.นำทีมแถลงจับ “ผอ.กอล์ฟ” จี้ชิงทอง จ.ลพบุรี ฟันธงประสงค์ต่อทรัพย์

กรุงเทพฯ 23 ม.ค.- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำแถลงจับ “ผอ.กอล์ฟ” ผู้ต้องหาชิงทองจังหวัดลพบุรี ยืนยันหลักฐานชัดเจน หวังประสงค์ต่อทรัพย์ ยังไม่พบคนอื่นเกี่ยวข้อง ผู้ต้องหารับไม่ตั้งใจลงมือยิงเด็ก แค่ยิงเปิดทาง


พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะทำงานสืบสวนสอบสวน แถลงรายละเอียดการจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ห้างโรบินสันลพบุรี โดยมีการไล่เรียงการสืบสวน จนนำมาสู่การออกหมายจับ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธ์ชัย จังหวัดสิงห์บุรี ได้เมื่อวันที่ 21 มกราคม ก่อนตามจับได้ในวันถัดมา 

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนในการยืนยันตัวผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ยืนยันไม่ใช่เหงื่อที่ติดอยู่บริเวณประตูอัตโนมัติของห้าง รวมทั้ง อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และสร้อยคอทองคำของกลาง 32 เส้น แต่ยังขาดลำกล้อง และท่อเก็บเสียงปืน ที่ถูกโยนทิ้งน้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหา


มูลเหตุเชื่อเป็นเรื่องการประสงค์ต่อทรัพย์ และตรวจสอบแล้วไม่พบประวัติการรักษาอาการทางจิต เบื้องต้น นายประสิทธิชัย รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ใน 7 ข้อหา“ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น หรือ หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้และมียุทธภัณฑ์ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และหลังจากนี้จะนำตัวไปฝากขัง ขณะที่ การสอบสวน ยังไม่พบผู้อื่นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่หากมีหลักฐานเชื่อมโยงเพิ่มก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม 

ขณะที่ การแถลงข่าวครั้งนี้ ตำรวจไม่ได้มีการนำตัวนายประสิทธิชัย มาร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ใช้การโฟนอินมาแทน โดยนายประสิทธิชัย ยอมรับว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากปัญหาส่วนตัวเรื่องหนี้สิน ส่วนที่ยิงปืนตั้งแต่นัดแรก เป็นการตั้งใจยิง โดยใช้ท่อเก็บเสียง ที่สั่งมาจากเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต เพื่อลดเสียงขณะก่อเหตุ เป็นการยิงเพื่อเปิดทางและต้องการข่มขู่ ส่วนที่ยิงซ้ำอีกหลายนัด เนื่องจากอารมณ์พาไป แต่ไม่ได้ตั้งใจยิงเด็ก เป็นการพลาดไปโดน หลังเกิดเหตุพยายามทำตัวเป็นปกติที่สุด


ส่วนตัวรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับการกระทำที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าทำเพียงผู้เดียว และคิดจะมอบตัวในวันที่ 24 มกราคม 2563 เนื่องจาก ยังมีภารกิจที่โรงเรียนในจังหวัดสิงห์บุรี ที่เป็นผู้อำนวยการอยู่ ยืนยันว่า ไม่ได้อยากดัง หรือต้องการถูกวิสามัญ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักฐานสำคัญนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับนายประสิทธิชัย คือปลอกกระสุนปืนคือ วัตถุพยานสำคัญที่ตำรวจสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาไปยิงปืนเล่นกับเพื่อนในจังหวัดสิงห์บุรี จึงตามไปเก็บมาเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำเพื่อนผู้ต้องหายืนยันว่าได้มายิงปืนกันจริง ชุดสืบสวนจึงตัดสินใจรายงานชุดนี้ ตรงต่อ ผบ.ตร.เพื่อออกหมายจับเมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา จากนั้นชุด”หนุมาน”ของกองปราบปรามนำกำลังเข้าจับกุมเช้ามือดวานนี้( 22 ม.ค.) .- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด