กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ลุ้น คก.ซื้อไฟฟ้า สปป.ลาว ตัดสินใจเลือกซื้อโครงการใด เพิ่มเติมอีก 3,000 เมกะวัตต์ในไตรมาส 1/63 โดยรัฐบาล สปป.ลาว เสนอมากกว่า 10 โครงการ เกินข้อตกลงเอ็มโอยู
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน อยู่ระหว่างพิจารณาคัดเลือกโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศ สปป.ลาว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นภายในไตรมาส 1/2563 หลังจากทาง สปป.ลาว ได้เสนอขายไฟฟ้าให้กับไทยเพิ่มเติมอีกเกือบ 10 โครงการ รวมปริมาณที่เสนอมาสูงกว่ากรอบความร่วมมือ (MOU) ซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกันที่ 9,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้วประมาณ 6,000 เมกะวัตต์ เหลือรับซื้อได้อีก 3,000 เมกะวัตต์
โดยตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว 2561-2580 (PDP2018) ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้าระบบได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป หรือทยอยเข้าระบบปีละ 700 เมกะวัตต์ รวม 3,500 เมกะวัตต์ ส่วนนี้เป็นโควตาของ สปป.ลาว 3,000 เมกะวัตต์ และเหลือสัดส่วนที่รับซื้อจากประเทศอื่น ๆ ได้อีก 500 เมกะวัตต์
นายบุญชัย จรัญวรพรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาโครงการ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH กล่าวว่า บริษัทได้แสนอขายไฟฟ้าแก่ไทยในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B ใน สปป.ลาว ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 340 เมกะวัตต์ โดยโครงการฯ นี้จะเริ่มการก่อสร้างได้ ก็ต่อเมื่อมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B ประกอบด้วย เขื่อนเก็บน้ำ 2 แห่ง คือเขื่อนเซกอง 4A ตั้งอยู่เมืองละมาม และเขื่อนเซกอง 4B ตั้งอยู่เมืองกะลึม แขวงเซกอง ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง RATCH มีสัดส่วน ร้อยละ 60 ,บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ถือหุ้นสัดส่วน ร้อยละ 20 และ Lao World Engineering & Construction Co., Ltd. ถือหุ้นสัดส่วน ร้อยละ 20 มูลค่าโครงการประมาณ 835 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย