จิตแพทย์แนะ 12 วิธี #เลี้ยงลูกไม่ให้โตขึ้นไปฆ่าใคร

สำนักข่าวไทย 10 ม.ค.-จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น แนะ12 วิธี #เลี้ยงลูกไม่ให้โตขึ้นไปฆ่าใคร หรือไปทำร้ายคนอ่อนแอ ไม่มีทางสู้ ปัจจัยสำคัญหนึ่งที่จะหล่อหลอมให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมคือการเลี้ยงดูของครอบครัว 


พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น  เจ้าของเพจ “เข็นเด็กขึ้นภูเขา” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4.6 แสนคน โพสต์เรื่องการ #เลี้ยงลูกไม่ให้โตขึ้นไปฆ่าใคร หลังเกิดเหตุสะเทือนความรู้สึกกรณีมีเด็กเสียชีวิตจากเหตุ  กราดยิงชิงทอง ในห้างสรรพสินค้า ที่จังหวัดลพบุรี


โดยระบุว่า ข่าวแย่ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน  เรื่องโจรบุกปล้นร้านทองยิงคนเสียชีวิต หนึ่งในนั้นมีเด็กเล็กด้วย ถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญและสะเทือนความรู้สึกของคนที่รับรู้ หมอขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและญาติพี่น้อง ผู้ใกล้ชิดทุกท่าน เรื่องการทำร้ายคนที่อ่อนแอหรือไม่มีทางสู้ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน การฆ่าแกง ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและมีส่วนหล่อหลอมเด็กที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ในสังคม คือการเลี้ยงดูของครอบครัว (แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่ไปฆ่าใคร เป็นเพราะครอบครัวเลี้ยงดูไม่เหมาะสมอย่างเดียว มีหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ) ถ้าครอบครัวจะช่วยให้เด็กคนหนึ่งโตมาเป็นคนที่ไม่ไปทำร้ายหรือฆ่าใคร ทำได้อย่างไรบ้าง ขอเขียนเป็นข้อๆ ดังนี้

1.เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ความเสี่ยงหนึ่งของเด็กที่กลายเป็นอาชญากร คือพ่อแม่ทำในเรื่องผิดๆให้ลูกเห็นบ่อยๆ หรือเด็กเห็นตัวอย่าง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอาชญากรรม หมอเคยดูคนไข้ที่มาด้วยเรื่องขโมยของเพื่อน เมื่อซักประวัติไป ก็พบว่าพ่อของเด็กก็เป็นคนที่ชอบคดโกง เอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง เมื่อเด็กเห็นสิ่งไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก ก็มีแนวโน้มที่จะมองว่าเรื่องไม่ดีเป็นเรื่องปกติที่คนทำกัน 

2.พ่อแม่ต้องมีความใกล้ชิดผูกพัน ให้ความอบอุ่น เด็กจะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไว้วางใจพ่อแม่ เป็นพื้นฐานจิตใจที่จะนำไปสู่ความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ไม่ทำอะไรให้คนอื่นเสียใจ เริ่มที่เห็นใจพ่อแม่ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นทุกข์หรือเสียใจ และตรงนี้จะกลายเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเห็นอกเห็นใจคนอื่นๆต่อไป


3.รักลูกให้ถูกทาง พ่อแม่ทุกคนรักลูก แต่ความรักแบบมีสติเป็นเรื่องจำเป็น บางคนรักลูกมาก ตามใจทุกอย่าง อยากให้อะไรก็ให้ ลูกก็จะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สนใจถ้าทำในเรื่องที่คนอื่นเดือดร้อน

4.สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบและควบคุมตัวเอง เด็กๆจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ต้องรู้จักที่จะควบคุมตัวเองได้ รู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำ มีวินัย รับผิดชอบ ถ้าพ่อแม่ไม่สอน เด็กๆก็จะไม่รู้

5.ให้รู้จักว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ พ่อแม่ควรจะใจดี ใจเย็น แต่ไม่ควรใจอ่อนเกินไป เวลาที่บอกเด็กว่าอะไรที่ต้องทำ หรือห้ามทำอะไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น อย่างไรก็ตามก็ต้องเข้าใจความต้องการ ความรู้สึกว่าเด็กคงไม่ชอบที่พ่อแม่ขัดใจ แต่ก็ต้องยืนยันไปตามที่ตกลงกัน เขาจะรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ

6.จับที่ถูกและชมเชย เมื่อเห็นว่าเด็กทำอะไรที่ดี ก็ต้องรีบชมเชย เป็นกำลังใจและสร้างแรงจูงใจที่ให้เขาทำดีต่อไป 

7. เอาใจลูกมาใส่ใจเราเด็กจะรู้สึกดีถ้าพ่อแม่เห็นอกเห็นใจ รับรู้อารมณ์ความรู้สึกของเขา ในสถานการณ์ความขัดแย้งกัน การแสดงออกว่าพ่อแม่เข้าใจว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร จะทำให้คุยกันเข้าใจขึ้น และเมื่อลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ก็เข้าใจและเห็นใจเขา เขาก็จะมีความเข้าใจและเห็นใจคนรอบข้างต่อไป

8.สอนให้ลูกรู้จักจัดการกับความโกรธ อารมณ์โกรธเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่สำคัญกว่าคือ การจัดการความโกรธนั้นของตัวเอง เช่น โกรธได้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การจัดการความโกรธอย่างเหมาะสมสำคัญกว่า ไม่ใช่ว่าโกรธแล้วจะต้องทำร้ายทำลายคนอื่น พ่อแม่ก็ต้องทำเป็นตัวอย่าง ว่าโกรธได้ แต่สามารถจัดการได้ เช่น โกรธก็ไปหาอะไรทำ ปรึกษาคนที่ไว้ใจ ไปออกกำลังกาย เป็นต้น

9.สอนให้ลูกคิดอะไรไกลๆ มีเป้าหมายในชีวิต หลายๆครั้งเด็กที่ทำผิดรุนแรง เป็นเพราะตามเพื่อน หรือ คิดอะไรง่ายๆ สั้นๆ ถ้าเด็กมีเป้าหมายว่าอนาคตอยากทำอะไร เป็นอะไร เด็กก็จะมีแนวโน้มดูแลตัวเองเพื่อไปสู้เป้าหมายนั้นได้ ลองพูดคุยถึงความฝันความหวังของเด็กเมื่อมีโอกาส

10.ปลูกฝังทักษะการกล้าที่จะปฏิเสธในเรื่องไม่ถูกต้อง เด็กๆส่วนหนึ่งที่ทำผิด เกิดเพราะการกดดันจากกลุ่มเพื่อน ว่าถ้ารักเพื่อนต้องทำตามๆกัน ต้องช่วยกัน แม้ว่าบางครั้งจะเป็นเรื่องที่ผิด เช่นไปเสพยาเสพติด ไปล้างแค้นฝ่ายตรงข้าม ควรปลูกฝังเรื่องความหนักแน่น กล้าที่จะปฏิเสธในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

11.รู้จักเพื่อนของลูก ลองชวนเพื่อนลูกมาเที่ยวบ้าน ทำอาหารให้กิน พูดคุยกัน พ่อแม่จะได้รู้เขารู้เรา ว่าเพื่อนๆที่ลูกคบอยู่เป็นคนแบบไหนยังไงบ้าง

12. อย่าทำโทษลูกด้วยวิธีรุนแรง เวลาลูกทำผิด บอกเขาว่าอะไรที่ไม่ควรทำ และเพราะอะไร หลีกเลี่ยงการทำโทษรุนแรง เช่น การใช้คำพูดรุนแรง การตีรุนแรง หรือการทำร้ายร่างกาย การถูกกระทำรุนแรงบ่อยๆโดยเฉพาะจากพ่อแม่ จะทำให้ลูกเกิดบาดแผลทางใจ และซึมซับพฤติกรรมรุนแรง และอาจจะกลายเป็นคนรุนแรงที่ไม่เห็นอกเห็นใจใคร

อย่างไรก็ตามถ้าใครคิดว่ายาวเกินไป ขอบอกว่าข้อ 1 ถึงข้อ 3 เป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก อย่างน้อยขอให้ทำให้ได้ และต้องทำตั้งแต่เด็กยังเล็ก จะมาเริ่มตอนโตบางครั้งก็ไม่ทันเสียแล้ว 

ทั้งนี้  โพสต์นี้หมอนำมีรีรันใหม่ เคยเขียนเมื่อนานมาแล้ว และอีกเรื่องคือ ขอความกรุณาทุกท่านกรุณางดแชร์ส่งต่อภาพหรือคลิปของผู้เสียชีวิตด้วย #หมอมินบานเย็น  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

สนามบินสุวรรณภูมิ

ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” 1 ใน 6 สนามบินสวยสุดในโลก

“สุริยะ” รมว.คมนาคม ปลื้ม ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ด้าน “อาคาร SAT-1” สุดปัง! หลังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสนามบินที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดของโลก โชว์ความโดดเด่นด้านความงาม-ความคิดสร้างสรรค์ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ่อประกาศผล 2 ธ.ค.นี้

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่