ชัวร์ก่อนแชร์ : ติดจอ ทำให้เด็กเป็นออทิสติก จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความว่าเด็กที่ติดจอมีความเสี่ยงที่เป็นออสทิสติกได้นั้น


บทสรุป : จริง แชร์ได้ ✅

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบข้อมูลกับ ศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ


ศ.นพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่าจากข้อมูลงานวิจัยในประเทศและต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา พบว่าเด็กที่ใช้สื่อหน้าจอเยอะ เร็ว มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมคล้ายออทิสติก และในขณะเดียวกันเด็กที่เป็นออทิสติกมีความสัมพันธ์กับการใช้สื่อหน้าจอเหล่านี้เพิ่มขึ้น

ออทิสติก เป็นโรคเกี่ยวกับทางระบบประสาทและพัฒนาการ จะค่อยๆ ปรากฎอาการให้เห็นในภายหลัง มีอาการหลายอย่าง เช่น เด็กจะอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่มองหน้าหรือสบตา เรียกชื่อแล้วไม่หัน พูดสื่อสารล่าช้า มีภาษาของตัวเอง มีพฤติกรรมซ้ำๆ หากเป็นมากจะมีกรณีทำร้ายตัวเองร่วมด้วย

ในปัจจุบันการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสติกของเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบเป็นเรื่องยาก เพราะยังไม่มีอาการปรากฎให้เห็นชัดเจน ส่วนใหญ่พ่อแม่หรือผู้ปกครองจะพาเด็กมาพบแพทย์ในช่วงอายุ 1-4 ขวบ


ในเด็กกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นออทิสติกอยู่แล้ว เมื่อถูกเลี้ยงดูด้วยสื่อหน้าจอเหล่านี้เยอะ อาจจะเปิดทิ้งไว้โดยที่เด็กจะดูหรือไม่ดูก็ตาม การเลี้ยงด้วยพฤติกรรมแบบนี้มีโอกาสเป็นตัวเร่งให้เกิดความเสี่ยงเป็นออทิสติกมากขึ้น

เด็กกลุ่มอาการเสมือนออทิสติก (ออทิสติกเทียม) ที่มีอาการติดหน้าจอ เมื่อมีการลดหรือปิดสื่อหน้าจอ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง พบว่า หลายเคสมีอาการดีขึ้น เด็กที่อยู่ในโลกส่วนตัวกลับมาสนใจผู้ปกครองมากขึ้น

คุณหมอให้คำแนะนำว่าเด็กในวัยก่อน 3 ขวบ พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ควรมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับลูกผ่านการเล่น การเล่านิทาน การร้องเพลงต่าง ๆ ตามวัยของเด็ด พยายามให้ลูกดูโทรศัพท์มือถือให้น้อยลงหรือไม่ดูเลยจะดีที่สุดสำหรับเด็ก

ดังนั้น ผู้ปกครองก่อน 3 ขวบ พยายามเลี้ยงลูกให้มีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับพ่อแม่ ผู้ปกครองผ่านการเล่น เล่านิทาน ร้องเพลงต่างๆ ตามวัยของเด็ก พยามให้ลูกดูมือถือให้น้อยลง หรือไม่ดูเลยจะดีที่สุด

สัมภาษณ์เมื่อ : 26 ธันวาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่