ผู้จัดการตลาดหุ้นแนะนักลงทุนติดตามวิเคราะห์ผลกระทบความขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่าน ชี้เป็นโอกาสลงทุนหุ้นปันผลดี

ตลท. 8 ม.ค.  – ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ยอมรับความตึงเครียดตะวันออกกลางเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของตลาดหุ้น แนะให้นักลงทุนติดตามศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ กลุ่มที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน ชี้เป็นโอกาสในวิกฤติเข้าลงทุนหุ้นปันผลดีในราคาถูกลง 


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศสหรัฐในอิรัก ว่า  เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะรุนแรงและยืดเยื้อนานแค่ไหน  ดังนั้น ขอให้นักลงทุนติดตามศึกษาข้อมูลและบทวิเคราะห์ต่าง ๆ อย่างครบถ้วน  เพราะแม้ดัชนีหุ้นไทยจะปรับลดลงประมาณ 1.5 % ในวันเดียว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่ทุกวิกฤติก็ยังมีโอกาสที่ให้นักลงทุนเข้าลงทุนได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีทั้งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ ดังนั้น นักลงทุนต้องวิเคราะห์ อย่าไปกังวลว่าผลกระทบจะต้องเท่ากันหมด  ซึ่งในช่วงที่ราคามีการปรับตัวลงมาก ๆ ก็ถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นที่ปันผลดี  นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยถือว่ายังมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจเฉลี่ยในอัตรา 3.26 % เมื่อรวมกับเงินปันผล หากเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ที่ให้ผลตอบแทน 1.3% 

“ปัจจัยเสี่ยงเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ความวุ่นวายในตะวันออกกลาง ซึ่งแม้จะกระทบดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาก แต่ก็เป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นที่ปันผลดี แต่ราคาต่ำลง ขอให้นักลงทุนวิเคราะห์ภาพรวมอุตสาหกรรมบริษัทจดทะเบียน เพราะผลกระทบไม่เท่ากัน” นายภากร กล่าว


ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาได้เพียง 1% ในรูปสกุลเงินบาท และ 9.7 % ในสกุลดอลลาร์สหรัฐ  เพราะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 7-8 % โดยยังเชื่อว่าปีนี้เงินทุนต่างชาติมีโอกาสที่จะไหลกลับเข้ามายังตลาดหุ้นไทย โดยในช่วงต้นปีนี้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติปรับขึ้นมาอยู่ที่ 30% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 10 ปี จากในช่วงปลายปีก่อนอยู่ที่ 28-29% .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย