วอชิงตัน 9 ก.ย. – กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศวานนี้ว่า สหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ดำเนินการหลอกลวงทางไซเบอร์ในเมียนมาและกัมพูชา ซึ่งเป็นธุรกิจผิดกฎหมายที่กำลังเติบโตและสหรัฐระบุว่าบรรดาผู้ประกอบการที่เป็นมิจฉาชีพเหล่านี้ได้ฉ้อโกงเงินจากชาวอเมริกันไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
เครือข่ายอาชญากรได้ลักลอบค้ามนุษย์หลายแสนคนไปทำงานที่อาคารหลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ซึ่งพวกเขาถูกบังคับให้ทำงานใช้หนี้และฉ้อโกงบุคคลที่ไม่รู้จักกันมาก่อนผ่านช่องทางออนไลน์
นายจอห์น เค เฮอร์ลีย์ (John K. Hurley) ปลัดกระทรวงการคลังด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน กล่าวในแถลงการณ์ว่า อุตสาหกรรมการหลอกลวงทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงแต่คุกคามความเป็นอยู่และความมั่นคงทางการเงินของชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนหลายพันคนตกเป็นเหยื่อของแรงงานทาสสมัยใหม่
การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการฟอกเงิน การพนันที่ผิดกฎหมาย และการชักชวนเหยื่อให้ลงทุนในสิ่งที่ฉ้อโกง โดยผู้ดำเนินงานส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างชาติที่ถูกลักลอบค้ามนุษย์และถูกบีบบังคับให้ทำงานในอาคารที่เป็นสำนักงานที่ดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์และโทรศัพท์
หน่วยงานที่ถูกสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (Office of Foreign Assets Control) ของกระทรวงการคลังสหรัฐคว่ำบาตรประกอบด้วยบริษัทและบุคคล 9 แห่งในเมืองชเวโก๊กโก่ (Shwe Kokko) ซึ่งเป็นเมืองในรัฐกะเหรี่ยงที่อยู่ติดกับชายแดนไทย มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ มีเป้าหมายเพื่อตัดช่องทางการเงินของเครือข่ายอาชญากร ซึ่งดำเนินกิจการในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมทั้งของกลุ่มติดอาวุธและรัฐบาลทหารเมียนมา
กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ที่ชเวโก๊กโก่ ผู้ประกอบการได้ล่อลวงผู้คนจากทั่วโลกด้วยข้อเสนอที่หลอกลวง จากนั้นก็กักขัง ทำร้าย และบีบบังคับให้พวกเขาทำการฉ้อโกงออนไลน์ให้กับเครือข่ายอาชญากร กระทรวงฯ ระบุว่า อาชญากรเหล่านี้มักใช้การบังคับให้ทำงานใช้หนี้ ใช้ความรุนแรง และการข่มขู่ว่าจะถูกส่งไปค้าประเวณีเพื่อเป็นยุทธวิธีในการบีบบังคับ
กระทรวงฯ ยังได้คว่ำบาตรอีก 10 องค์กรในกัมพูชา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ฉ้อโกงที่บริหารโดยเครือข่ายอาชญากรชาวจีน โดยมุ่งเน้นไปที่การฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล องค์กรนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ระบุว่า อาคารบางแห่งในกัมพูชามีลักษณะคล้ายเรือนจำ ซึ่งเป็นการกล่าวหาว่ากัมพูชาเพิกเฉยต่อการก่ออาชญากรรมนี้ แต่กัมพูชาก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
รายงานจากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลียระบุว่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารในปี 2021 อาชญากรรมด้านการหลอกลวงออนไลน์ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเมียนมา โดยแพร่กระจายจากพื้นที่ที่ควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธไปยังพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร
สถาบันสันติภาพสหรัฐฯ ระบุว่า ชเวโก๊กโก่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย กลุ่มทุนยาไท่ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Yatai International Holdings Group) ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง และ กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army) หรือ เคเอ็นเอ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเมียนมา ทั้ง Yatai group และ เคเอ็นเอ ถูกคว่ำบาตรมาก่อนหน้านี้แล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย