สนพ. ย้ำจะดูแลราคาน้ำมัน บี10 ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

กรุงเทพฯ 7 ม.ค. – สนพ.ย้ำดูแลราคาน้ำมันกลุ่มบี 10 ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร พร้อมใช้กองทุนน้ำมันดูแล  ส่วนการใช้พลังงานขั้นต้นในปี 63 คาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8  บาทแข็งค่า-ราคาน้ำมันต่ำปี 62 ส่งผลมูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 14 ด้านโฆษก ก.พลังงานแจงอีกรอบราคาน้ำมันที่ขึ้นหลังปีใหม่เป็นไปตามกลไกตลาดโลก 


นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)  สรุปสถานการณ์พลังงานปี 2562 การใช้พลังงานขั้นต้นเติบโตร้อยละ 0.7 ตามเศรษฐกิจไทย(GDP)ที่ขยายตัวร้อยละ 2.6 ส่วนแนวโน้มการใช้พลังงานขั้นต้นปี 2563 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8จากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดจีดีพีไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.7-3.7  อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30-31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และคาดกรอบราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 55-63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล  


อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ต้องจับตาสถานการณ์เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น  ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบปรับเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ6 จากเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 ซึ่งอยู่ที่ 65.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็น 69.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในวันที่ 6 มกราคม 2563  ซึ่งหากราคาสูงกว่า5เหรียญต่อ/บาร์เรล ใน 1สัปดาห์ ทางกระทรวงพลังงานจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปดูแล เป้าหมายดูแลราคาดีเซลบี10ไม่เกิน30บาท/ลิตร หรือราคาน้ำมันดิบดูไบที่ประมาณ 80 เหรียญ/บาร์เรล จากราคาบี 10 วันนี้อยู่ที่25.39บาทต่อลิตร โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานเป็นประธานจะหารือภาพรวมทั้งหมดในวันที่ 10 ม.ค.นี้

“แผนการดูแลความมั่นคงพลังงานไม่ขาดแคลนและราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ ทางกระทรวงพลังงานมีแผนชัดเจน กำหนดเบื้องต้น กองทุนฯจะเข้ามาดูแล เมื่อราคาปรับขึ้น 5 เหรียญ/บาร์เรลใน 1 สัปดาห์ โดยเกณฑ์ที่สำคัญคือดูแลดีเซลไม่เกิน 30บาท/ลิตร”นายวัฒนพงษ์ กล่าว 


สำหรับการใช้พลังงานขั้นต้นในปี 2563 ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 จะเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมัน ถ่านหิน/ลิกไนต์ พลังงานทดแทน ไฟฟ้านำเข้า และก๊าซธรรมชาติ ขณะที่การใช้พลังงานไฟฟ้าของ ปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างช้า ๆ การส่งออกที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามการดำเนินมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ มาตรการการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการลงทุนภายใต้โครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP)

ส่วนสถานการณ์พลังงานรายเชื้อเพลิง ปี 2562(มกราคม-พฤศจิกายน 62 ) ราคาน้ำมันดิบดูไบ 63.2 เหรียญต่อบาร์เรล และจากเงินบาทที่แข็งค่า การใช้น้ำมันสำเร็จรูปมีการใช้เพิ่มขึ้น ร้อยละ1.6 โดยกลุ่มดีเซล เพิ่มขึ้น ร้อยละ4.3 เฉลี่ยยอดใช้ 67.5 ล้านลิตร/วัน ยอดใช้กลุ่มเบนซินร้อยละ 3.9 เฉลี่ย32.3 ล้านลิตร/วัน  ขณะที่น้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากการชะลอตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ลดลงร้อยละ 0.6 รวมทั้งสิ้น6,582 พันตัน   โดยลดลงทุกสขายกเว้น ภาคปิโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยภาคครัวเรือน คาดว่าเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการใช้เตาไฟฟ้าและเตาไมโครเวฟเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับยอดขายเตาไมโครเวฟที่เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ14 และภาคขนส่งลดลงจากผู้ใช้รถยนต์บางส่วนหันไปใช้น้ำมันแทนเนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก สำหรับการใช้ไฟฟ้า ในปี 2562 มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนเร็วกว่าปีก่อน อีกทั้งมีอุณหภูมิอากาศที่สูงขึ้นกว่า ปีก่อนประมาณ 1-2 องศา ส่งผลให้มีการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศ และเครื่องปรับอากาศทั้งใน ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น โดยตัวเลขการใช้ไฟฟ้า ปี 2562 อยู่ที่ 194,949 ล้านหน่วย โดยความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ (Peak) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 เวลา 14.27 น. อยู่ที่ระดับ 37,312 MW เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน และความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของระบบ 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 32,273 MW เพิ่มขึ้น ร้อยละ7.7-

ในปี 2562 มูลค่าการนำเข้าพลังงาน และการส่งออกพลังงานลดลง ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าราคาน้ำมันดิบที่ไม่สูงมากนัก โดยประเทศไทยมีสัดส่วนการพึ่งพาการนำเข้าต่อการใช้พลังงาน คิดเป็นร้อยละ 67  มูลค่าการนำเข้าพลังงานคิดเป็น 1,053 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 14 ตามราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากการนำเข้าพลังงานส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าน้ำมันดิบร้อยละ 61 ขณะที่การส่งออกพลังงาน อยู่ที่ 194 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 32 ตามการลดลงของการส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป 

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ กบน. ได้มีมติลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดลดลง 1 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2562 ถึง 10 มกราคม 2563 นั้น จนถึงขณะนี้ (7 มกราคม 2563) ยังคงอัตราการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ตามที่ได้มีมติข้างต้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกของสถานีน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนของราคาหน้าโรงกลั่น มิใช่การเปลี่ยนแปลงอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ โดยหากไม่มีลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ มาช่วยพยุงราคาไว้ จะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นลิตรละ 1 บาทจากราคาขายในปัจจุบัน 

 “กระทรวงพลังงาน ขอชี้แจงประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อเรื่องนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงนี้ เป็นเรื่องของกลไกตลาด ซึ่งถ้าไม่มีมาตรการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1 บาทต่อลิตร ราคาก็จะสูงขึ้นอีก 1 บาทจากราคาปัจจุบัน ณ สถานีบริการ” โฆษกกระทรวงพลังงานชี้แจง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักแม่สายคลี่คลาย ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยท่วมใหญ่

ปภ.เชียงราย แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย คลี่คลายแล้ว หลังฝนตกหนักบริเวณรัฐฉานของเมียนมา ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่สาย ขณะที่ชาวบ้านผวา หวั่นซ้ำรอยวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา

แจ้งข้อหาโชเฟอร์แท็กซี่ขวางรถพยาบาล ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิต

แท็กซี่ป้ายเขียวขวางรถพยาบาล เปิดไซเรนขอทางแต่ไม่สนใจ ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิตคารถ ล่าสุดตำรวจเรียกโชเฟอร์แท็กซี่แจ้งข้อหาแล้ว

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายชุมชน

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวบ้านต่างรีบเก็บของขึ้นที่สูง ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ