“ทวี ไกรคุปต์” ชนอีก ก่อนมาแจงสื่อที่สภาฯ

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.- “ทวี ไกรคุปต์” ขับรถชนอีก คราวนี้ชนท้ายคนอื่นเหตุเกิดแถวเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ขณะขับรถมาแถลงข่าวที่สภา ย้ำคราวนี้เคลียร์ประกันเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ยันจะขับรถเองต่อไป ไม่ต้องมีใครมาขับให้


เมื่อวานช่วงเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สรายุ กลิ่นหอม สว.จร.สน.บางยี่ขัน กำลังออกตรวจสภาพการจราจรในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุลอยฟ้า ตรวจสอบถนนบรมราชชนนี (ขาเข้า) ช่วงตลิ่งชันจนถึงบริเวณทางต่างระดับสิรินธร พบรถยนต์จอดเรียงกัน 3 คัน คันแรกเป็นรถเก๋งโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กต 5107 สุพรรณบุรี สภาพท้ายรถด้านขวายุบ ถัดไปพบรถ SUV ยี่ห้อเล็กซัส แอลเอ็กซ์ 470 กบ 7822 ราชบุรี สภาพกันชนหน้าเป็นรอย ฝากระโปรงหน้าโก่ง และกระจกมองข้างด้านขวาหลุดหายไปถัดไปอีกพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ตถ 7715 กรุงเทพมหานคร สภาพบานกระจกมองข้างด้านขวาแตก ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางทางรวมระหว่างรถที่ยูเทิร์นช่วงสายใต้เก่ามารวมกับถนนบรมราชชนนี ด้านขาเข้า ซึ่งเป็นลักษณะสามเหลี่ยม 

สอบสวนเบื้องต้นพบว่า นายทวี ไกรคุปต์ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถกระบะตรงช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 5 แล้วขับมาตามถนนบรมราชชนนี (ขาเข้า) จนเข้าในพื้นที่ของ สน.ตลิ่งชัน แล้วยังไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งโตโยต้า ยารีสอีกคัน


จากนั้นทั้งหมดได้ลงมาเจรจากันที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ขับขี่รถทั้งหมดขยับรถออกไปจอดชิดขอบทางด้านซ้าย เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ซึ่งรถของนายทวี ลูกกุญแจหักคาอยู่ในช่องเสียบ จึงไม่สามารถขยับรถได้ ต้องนำรถมายกเพื่อเคลื่อนย้ายออกไป โดยทั้งรถเก๋งและกระบะมีประกันภัยชั้น 1 แต่รถของนายทวีไม่มีประกัน

นายทวี ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายและยอมตกลงกันเอง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ซึ่งตัวของนายทวี ไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด หลังจากเกิดเหตุลูกน้องของนายทวี ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ปกติจะมีคนขับให้ แต่วันนี้นายทวี ขับมาเอง ด้านนายณัฐชัย ประไพ อายุ 39 ปี เจ้าของรถกระบะคู่กรณีคันแรก บอกว่าจะไปงานศพญาติ ที่สามพราน ตนใช้เลนกลาง ส่วนรถของนายทวี ได้ขับมาเลนขวาในขณะที่กำลังแซงรถของตน รถของนายทวี ได้เสียหลักเฉี่ยวที่กระจกมองข้างด้านขวาแตกจนเสียงดังลั่น ทุกคนในรถต่างตกใจ  แต่รถของนายทวีนั้น มีกระจกใส สามารถมองเห็นหน้าคนขับรถได้ และจำได้ว่าเป็นนายทวี แต่ก็ไม่มีที่ท่าว่าจะลงมาเจรจาแต่อย่างใด ตนจึงขับรถบีบแตรไล่หลังมาตลอดและขับรถประกบข้างมาทางด้านซ้าย และไขกระจกลงเพื่อบอกให้คนขับจอดรถลงมาเจรจากัน แต่นายทวีก็ทำเป็นยกมือยกไม้เหมือนจะจอด แต่กลับเร่งเครื่องออกไป ตนได้ขับรถและบีบแตรไล่มาจนถึงช่วงทางต่างระดับสิรินธร จนการจราจรเริ่มติดขัด และเป็นจังหวะที่รถเคลื่อนตัวได้ช้า ตนจึงจอดรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูรถด้านหลังขวา เพื่อที่จะเจรจาให้รู้เรื่อง แต่ช่วงนั้นการจราจรเริ่มเคลื่อนตัวได้รถได้เริ่มขยับ นายทวีก็ยังขับรถต่อไปอีก

จนมีพลเมืองดีขี่รถ จยย.มาถามตนว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็บอกว่านายทวี ขับรถเฉี่ยวรถตน กระทั่งนายทวีไปชนท้ายของรถเก๋งโตโยต้ายารีสอีกคัน และพลเมืองดีที่ขี่ จยย.ขับรถไปขวางหน้าแล้วลงมาเปิดประตูด้านคนขับกระชากกุญแจ แต่นายทวี กลับยื้อแย่งจนกุญแจหักคาช่องเสียบ หลังจากนั้นนายทวี ก็ไม่ยอมลงมาจากรถแต่อย่างใดและนั่งอ่านหลังสือพิมพ์แบบไม่สนใจโลก ก่อนจะโทรศัพท์หาใครก็ไม่รู้


เมื่อตำรวจมาถึงขอตรวจสอบเอกสารอะไรก็ไม่มีสักอย่างไม่มี พ.ร.บ.ไม่มีประกันภัย ตนไม่อยากเรื่องมาก เพราะรถตนเสียหายไม่มาก หากลงมาเจรจากันตั้งแต่แรกคงไม่ต้องขับรถตามมาไกลขนาดนี้ ซึ่งตนคิดว่าดูจากสภาพร่างกายของนายทวีนั้นไม่น่าจะขับรถได้ เพราะมีอายุมากแล้วเกรงว่าจะไปเกิดเหตุกับผู้ใช้เส้นทางจราจรคนอื่นๆ

ด้านนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม เมื่อมาถึงสภา ด้วยการนั่งแท็กซี่ ช่วงใกล้บ่าย 3 ก็รีบบอกว่าตนเองเกิดอุบัติเหตุขับรถชนท้ายรถยนต์ แถวปิ่นเกล้า บอกว่า “เราจะเเซงพอเขาเบรก เราก็เบรก จึงไปชนท้ายเขาเเค่นั้นเอง ก็เลยมาช้า เพราะอยู่ระหว่างเคลียร์ประกัน พร้อมตัดพ้อว่าช่วงนี้รู้สึกแย่ดวงไม่ดีไม่รู้เป็นเพราะอะไร ต้องมาเจอเหตุการณ์รถชน 2 ครั้งใกล้ๆ กัน แต่ยืนยันว่าครั้งนี้เคลียร์ได้ไม่มีปัญหา

ยอมรับว่าช่วงนี้ดวงไม่ดี เมื่อสักครู่ก็เกิดอุบัติเหตุก่อนมาแถลงข่าว แต่เมื่อสักครู่ตนเป็นฝ่ายถูก ได้เคลียร์เรื่องประกันแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ คงไม่มีคลิปออกมาอีก เพราะเคลียร์เรียบร้อยทั้งประกันและคู่กรณี

สื่อถามว่าหลังจากนี้จะระมัดระวังการขับขี่เพิ่มเติมไหม นายทวีตอบว่าความจริงวันนี้ตนก็ระวังแล้ว อย่าให้เกิดเว้ย ไม่เอาเว้ย แต่รถในเมืองมันแน่น เราจะแซงพอเขาเบรกเราก็เบรก จึงไปชนท้ายเขาแค่นั้นเอง

ปีหน้ายังยืนยันจะขับรถเองหรือไม่ นายทวีตอบว่าอยู่ที่สุขภาพของเรานะยังแข็งแรง ประสาทตาเราดี สมองยังสั่งการได้ ลูกสาวก็เป็นห่วงนะ จะเอาคนขับมาให้ บอกเอ๋ไม่ต้องมายุ่งกับพ่อ พ่อชอบของพ่ออย่างนี้ อากาศไม่ดีบางทีก็เป็นหวัด อย่ามายุ่งกับพ่อ คนอายุ 80 ปีแล้วยังขับรถได้ไม่เหมือนคนแก่นอนติดเตียงแล้วพูดจาไม่รู้เรื่อง

ส่วนคลิปหน้ารถที่เพิ่งออกมาใหม่ อีกคลิป หลังเหตุการณ์ขับชน จยย.ที่ราชบุรี นายทวีระบุเสียงดังว่านั่นน่าจะตัดต่อ สร้างสถานการณ์ให้เหมือนการ์ตูน เอาเหตุการณ์ที่ขับรถขากลับมาตัดต่อ มีคนขับตามหลังเสมือนสร้างสถานการณ์เหมือนหนังการ์ตูน หลังช่วงเทศกาลปีใหม่ ตนจะฟ้องร้องดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งพิธีกร และสื่อช่องนั้น และรายการทีวีรายการหนึ่ง รวมถึงคนที่เผยแพร่ ทำให้ตนเกิดความเสียหาย รวมทั้งโลกโซเชียลที่นำมาขยายผลด้วย

ผมเป็นเหยื่อโซเชียล ผมเป็นผู้เสียหาย ที่มากที่สุดในชีวิต ถ้าทำกันขนาดนี้มาฆ่าผมเลยดีกว่า รายการทีวีช่องหนึ่งเผยแพร่คลิปวิดีโอ แล้วมาบอกว่าทวีต้องขอโทษคนทั้งประเทศ ผมไม่ได้ฉลาดกว่าคุณหรอก แต่ผมเอาความจริงมาเล่าให้ฟัง ใครทำผมเสียหาย ผมฟ้องหมด อยากดังผมยินดีจะจัดให้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย