“ทวี ไกรคุปต์” ชนอีก ก่อนมาแจงสื่อที่สภาฯ

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.- “ทวี ไกรคุปต์” ขับรถชนอีก คราวนี้ชนท้ายคนอื่นเหตุเกิดแถวเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ขณะขับรถมาแถลงข่าวที่สภา ย้ำคราวนี้เคลียร์ประกันเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ยันจะขับรถเองต่อไป ไม่ต้องมีใครมาขับให้


เมื่อวานช่วงเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สรายุ กลิ่นหอม สว.จร.สน.บางยี่ขัน กำลังออกตรวจสภาพการจราจรในพื้นที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุลอยฟ้า ตรวจสอบถนนบรมราชชนนี (ขาเข้า) ช่วงตลิ่งชันจนถึงบริเวณทางต่างระดับสิรินธร พบรถยนต์จอดเรียงกัน 3 คัน คันแรกเป็นรถเก๋งโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กต 5107 สุพรรณบุรี สภาพท้ายรถด้านขวายุบ ถัดไปพบรถ SUV ยี่ห้อเล็กซัส แอลเอ็กซ์ 470 กบ 7822 ราชบุรี สภาพกันชนหน้าเป็นรอย ฝากระโปรงหน้าโก่ง และกระจกมองข้างด้านขวาหลุดหายไปถัดไปอีกพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ตถ 7715 กรุงเทพมหานคร สภาพบานกระจกมองข้างด้านขวาแตก ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางทางรวมระหว่างรถที่ยูเทิร์นช่วงสายใต้เก่ามารวมกับถนนบรมราชชนนี ด้านขาเข้า ซึ่งเป็นลักษณะสามเหลี่ยม 

สอบสวนเบื้องต้นพบว่า นายทวี ไกรคุปต์ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถกระบะตรงช่วงถนนพุทธมณฑลสาย 5 แล้วขับมาตามถนนบรมราชชนนี (ขาเข้า) จนเข้าในพื้นที่ของ สน.ตลิ่งชัน แล้วยังไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งโตโยต้า ยารีสอีกคัน


จากนั้นทั้งหมดได้ลงมาเจรจากันที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ขับขี่รถทั้งหมดขยับรถออกไปจอดชิดขอบทางด้านซ้าย เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร ซึ่งรถของนายทวี ลูกกุญแจหักคาอยู่ในช่องเสียบ จึงไม่สามารถขยับรถได้ ต้องนำรถมายกเพื่อเคลื่อนย้ายออกไป โดยทั้งรถเก๋งและกระบะมีประกันภัยชั้น 1 แต่รถของนายทวีไม่มีประกัน

นายทวี ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายและยอมตกลงกันเอง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ซึ่งตัวของนายทวี ไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด หลังจากเกิดเหตุลูกน้องของนายทวี ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ปกติจะมีคนขับให้ แต่วันนี้นายทวี ขับมาเอง ด้านนายณัฐชัย ประไพ อายุ 39 ปี เจ้าของรถกระบะคู่กรณีคันแรก บอกว่าจะไปงานศพญาติ ที่สามพราน ตนใช้เลนกลาง ส่วนรถของนายทวี ได้ขับมาเลนขวาในขณะที่กำลังแซงรถของตน รถของนายทวี ได้เสียหลักเฉี่ยวที่กระจกมองข้างด้านขวาแตกจนเสียงดังลั่น ทุกคนในรถต่างตกใจ  แต่รถของนายทวีนั้น มีกระจกใส สามารถมองเห็นหน้าคนขับรถได้ และจำได้ว่าเป็นนายทวี แต่ก็ไม่มีที่ท่าว่าจะลงมาเจรจาแต่อย่างใด ตนจึงขับรถบีบแตรไล่หลังมาตลอดและขับรถประกบข้างมาทางด้านซ้าย และไขกระจกลงเพื่อบอกให้คนขับจอดรถลงมาเจรจากัน แต่นายทวีก็ทำเป็นยกมือยกไม้เหมือนจะจอด แต่กลับเร่งเครื่องออกไป ตนได้ขับรถและบีบแตรไล่มาจนถึงช่วงทางต่างระดับสิรินธร จนการจราจรเริ่มติดขัด และเป็นจังหวะที่รถเคลื่อนตัวได้ช้า ตนจึงจอดรถแล้ววิ่งไปเปิดประตูรถด้านหลังขวา เพื่อที่จะเจรจาให้รู้เรื่อง แต่ช่วงนั้นการจราจรเริ่มเคลื่อนตัวได้รถได้เริ่มขยับ นายทวีก็ยังขับรถต่อไปอีก

จนมีพลเมืองดีขี่รถ จยย.มาถามตนว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็บอกว่านายทวี ขับรถเฉี่ยวรถตน กระทั่งนายทวีไปชนท้ายของรถเก๋งโตโยต้ายารีสอีกคัน และพลเมืองดีที่ขี่ จยย.ขับรถไปขวางหน้าแล้วลงมาเปิดประตูด้านคนขับกระชากกุญแจ แต่นายทวี กลับยื้อแย่งจนกุญแจหักคาช่องเสียบ หลังจากนั้นนายทวี ก็ไม่ยอมลงมาจากรถแต่อย่างใดและนั่งอ่านหลังสือพิมพ์แบบไม่สนใจโลก ก่อนจะโทรศัพท์หาใครก็ไม่รู้


เมื่อตำรวจมาถึงขอตรวจสอบเอกสารอะไรก็ไม่มีสักอย่างไม่มี พ.ร.บ.ไม่มีประกันภัย ตนไม่อยากเรื่องมาก เพราะรถตนเสียหายไม่มาก หากลงมาเจรจากันตั้งแต่แรกคงไม่ต้องขับรถตามมาไกลขนาดนี้ ซึ่งตนคิดว่าดูจากสภาพร่างกายของนายทวีนั้นไม่น่าจะขับรถได้ เพราะมีอายุมากแล้วเกรงว่าจะไปเกิดเหตุกับผู้ใช้เส้นทางจราจรคนอื่นๆ

ด้านนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม เมื่อมาถึงสภา ด้วยการนั่งแท็กซี่ ช่วงใกล้บ่าย 3 ก็รีบบอกว่าตนเองเกิดอุบัติเหตุขับรถชนท้ายรถยนต์ แถวปิ่นเกล้า บอกว่า “เราจะเเซงพอเขาเบรก เราก็เบรก จึงไปชนท้ายเขาเเค่นั้นเอง ก็เลยมาช้า เพราะอยู่ระหว่างเคลียร์ประกัน พร้อมตัดพ้อว่าช่วงนี้รู้สึกแย่ดวงไม่ดีไม่รู้เป็นเพราะอะไร ต้องมาเจอเหตุการณ์รถชน 2 ครั้งใกล้ๆ กัน แต่ยืนยันว่าครั้งนี้เคลียร์ได้ไม่มีปัญหา

ยอมรับว่าช่วงนี้ดวงไม่ดี เมื่อสักครู่ก็เกิดอุบัติเหตุก่อนมาแถลงข่าว แต่เมื่อสักครู่ตนเป็นฝ่ายถูก ได้เคลียร์เรื่องประกันแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ คงไม่มีคลิปออกมาอีก เพราะเคลียร์เรียบร้อยทั้งประกันและคู่กรณี

สื่อถามว่าหลังจากนี้จะระมัดระวังการขับขี่เพิ่มเติมไหม นายทวีตอบว่าความจริงวันนี้ตนก็ระวังแล้ว อย่าให้เกิดเว้ย ไม่เอาเว้ย แต่รถในเมืองมันแน่น เราจะแซงพอเขาเบรกเราก็เบรก จึงไปชนท้ายเขาแค่นั้นเอง

ปีหน้ายังยืนยันจะขับรถเองหรือไม่ นายทวีตอบว่าอยู่ที่สุขภาพของเรานะยังแข็งแรง ประสาทตาเราดี สมองยังสั่งการได้ ลูกสาวก็เป็นห่วงนะ จะเอาคนขับมาให้ บอกเอ๋ไม่ต้องมายุ่งกับพ่อ พ่อชอบของพ่ออย่างนี้ อากาศไม่ดีบางทีก็เป็นหวัด อย่ามายุ่งกับพ่อ คนอายุ 80 ปีแล้วยังขับรถได้ไม่เหมือนคนแก่นอนติดเตียงแล้วพูดจาไม่รู้เรื่อง

ส่วนคลิปหน้ารถที่เพิ่งออกมาใหม่ อีกคลิป หลังเหตุการณ์ขับชน จยย.ที่ราชบุรี นายทวีระบุเสียงดังว่านั่นน่าจะตัดต่อ สร้างสถานการณ์ให้เหมือนการ์ตูน เอาเหตุการณ์ที่ขับรถขากลับมาตัดต่อ มีคนขับตามหลังเสมือนสร้างสถานการณ์เหมือนหนังการ์ตูน หลังช่วงเทศกาลปีใหม่ ตนจะฟ้องร้องดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งพิธีกร และสื่อช่องนั้น และรายการทีวีรายการหนึ่ง รวมถึงคนที่เผยแพร่ ทำให้ตนเกิดความเสียหาย รวมทั้งโลกโซเชียลที่นำมาขยายผลด้วย

ผมเป็นเหยื่อโซเชียล ผมเป็นผู้เสียหาย ที่มากที่สุดในชีวิต ถ้าทำกันขนาดนี้มาฆ่าผมเลยดีกว่า รายการทีวีช่องหนึ่งเผยแพร่คลิปวิดีโอ แล้วมาบอกว่าทวีต้องขอโทษคนทั้งประเทศ ผมไม่ได้ฉลาดกว่าคุณหรอก แต่ผมเอาความจริงมาเล่าให้ฟัง ใครทำผมเสียหาย ผมฟ้องหมด อยากดังผมยินดีจะจัดให้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย