“เฉลิมชัย” สยบข่าวแตกหัก “เดชอิศม์”

พรรคประชาธิปัตย์ 25 ก.ย.-“เฉลิมชัย” สยบข่าวแตกหัก “เดชอิศม์” แทงกั๊กหนุน “มาร์ค” รีเทิร์นหัวหน้า ปชป.หรือไม่ ขอคุยก่อน บอก 18 ต.ค. ตัดสินใจทางการเมืองอีกที่ จะไปต่อหรือพอแค่นี้

นายฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้หารือกันถึงการเตรียมประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคฯชุดใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ ยังมีอะไรที่ติดขัดก็จะร่วมกันจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งไม่มีอะไรติดขัด เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกอย่าง ซึ่งทางสำนักงานฯก็ปรึกษากับรักษาการเลขาธิการพรรคฯตลอด ส่วนตนลาออกแล้ว ก็ไม่ได้เป็น กก.บห.แล้ว มีแค่ความห่วงใย


ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้มีการฝากอะไรเป็นพิเศษ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการตามปกติอยู่แล้วแลัส่วนตัวคาดว่าในการเลือก กก.บห.ครั้งนี้อยากให้รอบเดียวจบ พรรคฯจะได้ขับเคลื่อนต่อไป แต่ก็ไม่มีใครรู้อนาคต กับเรื่องใจคน ซึ่งตนเจอมาแล้ว ไม่รู้จริงๆ

ส่วนได้มีการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บางหรือยังนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เพราะนายอภิสิทธิ์ยขณะนี้ติดภารกิจเดินทางในประเทศจีน ก็คงจะต้องได้คุยกัน รอให้นายอภิสิทธิ์เดินทางกลับมาก่อน และ เมื่อมีโอกาสก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว และยืนยันตนพร้อมจะให้ใครก็ได้ที่มีความตั้งใจมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีอคติ เช่นเดียวกันกับนายเดชอิศม์ ตนยืนยันแทนด้วยว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่


”ผมกับท่านอภิสิทธิ์ก็มีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเราก็ต้องคุยกัน เพราะผมอยากให้พรรคและ กก.บห.ขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นข่าวต่างๆทั้งหมด ผมขอบอกนักวิเคราะห์ทั้งหมดว่าวันนี้ท่านวิเคราะห์ไปมันยังไม่ชัดยังไม่ใช่ความจริง หนีไม่พ้นถ้ามันเป็นความจริง อย่างไรก็ต้องเป็นความจริง แต่ถ้ามันไม่ใช่ วิเคราะห์ไปแล้วก็ได้แค่สนุก ได้แค่มันในอารมณ์แค่นั้น ดังนั้นไม่ต้องห่วงผมยืนยันว่าเรา 2 คน ไม่รับตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่แข่งขันหรอกครับ จะได้ชัด เวลาที่มีคนนำไปคิดเองแล้วนำไปเขียนมันไม่ตรง พอไม่ตรงสังคมก็สับสน” นายเฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แตกแยกเหมือนที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่มีเช่นนั้น เพราะตนเองเป็นคนที่รอมชอมที่สุด

สำหรับกระแสข่าวว่าจะมีการย้ายพรรค นายเฉลิมชัย ถามกลับว่า ”ใครเอ่ย“ ผู้สื่อข่าวแจงว่าทั้งนายเฉลิมชัย และนายเอชอิศม์ นายเฉลิัย จึงชี้แจงว่าข่าวก็คือข่าว ตนไปที่จังหวัดตรังมา มีการพูดคุยกับนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ (โกหนอ) ที่ตนเคารพรักและมีการวิเคราะห์การเมืองหลายๆประเด็น โดยวิเคาระห์ในส่วนประชาธิปัต์กับภาคใต้ ซึ่ง การวิเคราะห์ของตนก็วิเคราะห์ตามสถานการณ์ในฐานะที่ตนอยู่ในวงการเมืองมา 20 ถึง 30 ปีส่วนที่นายสมชายจะเอาคำวิเคราะห์ของตนไปฟันธง คิดว่าก็เหมือนกับผู้จัดรายการทั่วไปที่วิเคราะห์อย่างนี้แล้วฝันทงว่าควรจะเป็นอย่างนี้


“ผมเรียนว่าการวิเคราะห์ของผม การฟันธงของผมทุกอย่างยังไม่มีอยู่ในความรู้สึก ยังไม่อยู่ในความนึกคิดทั้งหมด จนกว่าผมจะได้คุยกับ สส. ของพรรคให้ครบ คุยกับคนที่จะมาประสานงานต่อให้เรียบร้อย และได้หัวหน้าพรรคฯได้ กก.บห.พรรคฯ เรียบร้อย หลังจากวันที่ 18 ต.ค. ผมถึงจะเริ่มต้นคิดว่าจะทำอย่างไร ช่วงนี้ขอพักสักนิด ไม่เห็นหรอหน้าผมสดใสขึ้นเยอะ” นายเฉลิมชัยกล่าว

ส่วนหลังวันที่ 18 ต.ค.จะตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคไหนช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขอพักตรงนี้ก่อนสักเดือนหนึ่ง เอาเป็นว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หลัง18 ต.ค.ตนต้องใช้เวลาคิด ทุกอย่างที่ตนทำยังเป็นห่วงน้องๆในพรรคนี่คือตัวตน ใครจะง่าโบราณก็โบราณ​ “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” ตัวตนจริงๆของตน เพราะคำนี้ยังใช้ได้อยู่และยังมีอยู่ในประเทศไทย ตอนนี้ไม่มีใครรู้ 2 อย่างอนาคตกับใจคนตนขอฝากเลยว่าไม่มีใครรู้ 2 เรื่องนี้จริงๆ

เมื่อถามว่า มีขาวว่าจะตัดสินใจใดย้ายไปพรรคกล้าธรรมหรือพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่ายังไม่ได้คิด ตนเป็นคนที่เล่นการเมืองมีพรรคพวกพี่น้อง ตนสนิทกับทุกพรรค ซึ่งการพูดคุย กินข้าวร่วมกันเป็นเรื่องปกติ แต่ตนก็บอกกับทุกคนแล้วว่าการตัดสินใจทางการเมืองของตนเองอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ คือ ต้องให้พรรคประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนได้ก่อน ขนาดนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ หลังจากเสร็จสิ้นแล้วคือสิ่งที่ตนจะคิดตัดสินใจ แต่วันนี้ยังไม่ใช่ ตนคิดคิดให้รอบครอบ และยึดประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย และยืนยันไม่ได้มีปัญหาการทะเลาะกับนายเดชอิศม์ อาจจะเป็นความรู้สึกของคนที่เข้าใจไปอย่างนั้น และส่วนตัวไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่รู้จะทะเลาะไปทำไม คนเราเวลาเหลือน้อยเต็มที มันไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง“ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า”เพราะฉะนั้นตนไม่โกรธไม่โมโห

เมื่อถามว่าครบกันแค่วันที่ 18 ต.ค.หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนครบกัน แล้วคบตลอดชีวิต เหมือนนายอภิสิทธิ์ ตนคบมาก็สนิทสนมกันทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่ ครบกันทั้งชีวิตเหมือนกัน

“สำหรับผมเลือกคบเฉพาะคนที่ผมอยากคบ บางคนที่ผมไม่อยากคบ ผมก็ไม่คบด้วย ไม่มีอะไรและไม่มีใครมาบังคับผมได้ สำหรับผม ผมไม่หลอกตัวเอง” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการณ์เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ของตนว่า หากตนจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรค ตนก็ไม่ควรอยู่ แต่ถ้าเห็นแล้วว่าทำให้พรรคเดินไปข้างหน้าต่อได้ก็จะอยู่ต่อไป แต่ว่าตนไม่มีตำแหน่งอะไรในพรรค

เมื่อถามอีกว่าหากอยู่กับพรรคไม่ได้แล้วจะตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคไหน เพราะนายหิมะลัย ผิวพรรณ (เสธหิ) ก็ยอมรับว่าได้ทาบทามไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม นายเดชอิศม์กล่าวว่าแค่แวะมาทานข้าวธรรมดา เสธหิ ต้องการไปทานที่ร้าน แต่ตนบอกว่ามาทานที่บ้านจะดีกว่า เพราะกลัวจะเป็นข่าว แต่ก็เป็นข่าวจนได้ ซึ่งก็เป็นธรรมดา เพราะอยู่วงการการเมือง เป็นเพื่อนช่วยกันไปมา มีหลายพรรคชวนเยอะ

นายเดชอิศม์ กล่าวว่าวันนี้ตนยังเดินร่วมทางกับ“พี่ต่อ”( นายเฉลิมชัย” อย่างน้อยภาพที่เห็นว่าเราขัดแย้งกัน อยากให้เห็นว่าไม่จริง เพราะตนกับ“พี่ต่อ”คุยกันได้ทุกเรื่อง ตนบอกกับท่านว่าอย่ามากังวลกับเรื่องของตน ให้สบายใจได้ ตนไม่เอาตนเองมาเป็นตัวตั้ง และหลังวันที่18 ต.ค.นี้ตนค่อยตัดสินใจ เพราะตนต้องแบกเกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นคนใต้ ด้วย เพราะตนเป็นคนสงขลา

ต่อข้อถามว่าหากไปแล้วจะเอา สส.ในกลุ่มไปด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า อย่าว่าแต่ สส.เลยสมาชิกในครอบครัว ทั้งภรรยาและบุตร ที่เป็น สส.ตนก็ไม่บังคับ ให้เขาอยู่ในโลกประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะหลักคิดของทุกคนแตกต่างกัน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดเล่มแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ

กทม.25 ก.ย.- เปิดเล่มแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ปกน้ำเงิน ขลิบธงชาติ ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ “พิทักษ์สถาบัน-ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย-ยึดมั่นหลักนิติธรรม” ยันรัฐบาลสนับสนุนการทำประชามติและทำฉบับใหม่ให้สอดคล้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่จะทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเล่มนโยบาย ปกน้ำเงิน และมีองค์ประกอบ ที่ปกใกล้สันปก เป็น ขลิบสีธงชาติ โดยมี ทั้งหมด 50 หน้ารวมปก มีสาระสำคัญ โดยสรุปคือ เรื่องหลักบริหารราชการแผ่นดินและนโยบายสำคัญยึดหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1. การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 3.ยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ยัง มีเนื้อหา เกี่ยวกับการเข้าสู่การบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาล ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ซึ่งด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัดและงบประมาณที่ไม่ได้เป็นผู้จัดทำอีกทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่ประเทศกำลังประเชิญอยู่ในขณะนี้ […]

ชายแดนตึงเครียด กัมพูชายั่วยุตลอดคืน

25 ก.ย. – กัมพูชายังไม่เลิกยั่วยุ ชายแดนตึงเครียดตลอดคืน หลังพบการยิงปืนและระเบิดในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้าน รมว.ต่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงเวที UNGA เย็นนี้ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กกองทัพบก ทันกระแส รายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา กัมพูชายังคงมีพฤติกรรมยั่วยุและเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทย ทางเพจเผยว่า ได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะในหลายพื้นที่ รวมถึงพบความพยายามของทหารกัมพูชาที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม และมีการยิงปืน เพื่อตรวจสอบระยะทาง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายยั่วยุอย่างชัดเจน รมว.ต่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงเวทีโลกเย็นนี้ นายสีหศักดิ์ พงศ์เกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก พบปะข้าราชการ โดยระบุถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เย็นวันนี้ (25 ก.ย.) จะเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA รวมทั้งพบปะกับบุคคลสำคัญ เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประธานอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และจะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่จะเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชนในวาระต่อไป ทั้งนี้ การพบปะในครั้งนี้ไม่ได้พบปะเพียงแค่พิธีการทูตเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” เข้าทำงาน กต.วันแรก จ่อบินแจงปมเขมรเวที UNGA

กระทรวงการต่างประเทศ 25 ก.ย.- “สีหศักดิ์” เข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก ให้กำลังใจข้าราชการ ย้ำ ต้องเป็น 4 เดือนที่มีความหมาย ทำงานให้เป็นเอกภาพ รับอาจแก้ไม่ได้หมด แต่หวังสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา คลี่คลายขึ้น ติง “เขมร” แทนที่จะพูดคุยกันเองก่อน แต่กลับยกไปพูดคุยในเวทีระหว่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงโลกเวที UNGA เย็นนี้ พบเลขาฯ ออตตาวาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะทํางาน เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก หลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยได้สักการะพระพุทธราชไมตรีศรีสัมพันธ์ ศาลพระภูมิประจํากระทรวง พระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และเทพธิดาบัวแก้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ จากนั้น ได้พบปะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประจำกระทรวงการต่างประเทศ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่รับหน้าที่ จึงถือโอกาสนี้มาทักทายข้าราชการ […]

นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น กลไกสร้างการเติบโตทางศก.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 ก.ย.- นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น เหมือนได้พบกัลยาณมิตร เป็นแหล่งระดมทุน สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” นายอนุทิน​ กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า​ วันนี้ตั้งใจมาพบทุกท่านถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์​ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตื่นเต้นนอนไม่หลับ​ มาตั้งแต่ 09.00 น. เพราะทราบดี​ ​จะได้มาพบกับกัลยาณมิตร​ที่ดี​ เพื่อนที่หวังดีต่อกันตลอดเวลา​ และความสัมพันธ์ของเราก็พัฒนาไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง​ แม้จะอยู่ในภาคเอกชน​ ตลาดทุน​ แต่พวกเราในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือในทุกทาง ที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากที่สุด​ “ท่านเป็นแหล่งระดมทุนให้กับประเทศ เป็นกลไกในการสร้างการเจริญเติบโตกับทางเศรษฐกิจ​ ว่าประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่งในระดับไหน เป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในต่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าว -สำนักข่าวไทย