บุกตรวจที่ดิน “ทวี ไกรคุปต์” พบบ่อจระเข้นับพันตัว

ราชบุรี 4 มิ.ย. – ตำรวจ ปทส. พร้อมด้วย “วีระ สมความคิด” เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน และคณะ ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบที่ดิน “ทวี ไกรคุปต์” ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พบบ่อเลี้ยงจระเข้กว่า 1,000 ตัว และยังมีเอกสารฟ้องร้องเรื่องที่ดินถูกทิ้งเกลื่อน 


วันนี้ตำรวจ ปทส. พร้อมด้วยนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน และคณะ ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบที่ดินนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยร่วมตรวจสอบที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ ตามที่คณะพนักงานสอบสวน กองบังคับการปรามปรามการการะทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการสอบสวนคดีอาญา เป็นไปตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุญาตให้สอบสวนคดีอาญาที่ 419/2562 และ 420/2562 ของสถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ระหว่างนายวีระ สมความคิด กับนายทวี ไกรคุปต์ ฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484   


นายวีระ สมความคิด บอกว่า ทางหัวหน้าพนักงานสอบสวนทำหนังสือถึงตนเอง ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือให้พามาชี้พื้นที่อีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้าที่เคยเดินทางมาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แต่วันนั้นทางป่าไม้และ ส.ป.ก. ไม่ได้มาด้วย มาแต่ทางป่าไม้และอ้างว่าไม่ได้เตรียมเครื่องมือมา แต่นัดตนเองให้มาเสียเวลา วันนั้น ปทส.จึงไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ไม่มีการรังวัดอย่างละเอียด และติดช่วงโควิด-19 จึงหยุดไปกว่า 2 เดือน ส่วนวันนี้จะเริ่มเข้ามารังวัดอย่างละเอียดเป็นหน้าที่ของทางป่าไม้ และให้ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษมาชี้ที่ดินที่กล่าวโทษนั้นมีจุดไหนบ้าง ซึ่งคงมี 3 จุด เช่นจุดริมถนน และใกล้กันอีก 2 แปลง ทางเจ้าหน้าที่ ปทส.ได้ออกหนังสือเชิญมาช่วยชี้พื้นที่ในฐานะผู้ร้อง 

  


ส่วนที่ดินเท่าที่ตรวจสอบมีการครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ ไม่ว่าจะเป็น ส.ค.1 หรือ น.ส.3 แต่ที่แปลงนี้เขาอ้างว่ามีโฉนดนิดเดียวจริงหรือไม่ ไม่ทราบ อีกทั้งก็ไม่เคยเอาเอกสารสิทธิมายืนยันได้เลย โดยเฉพาะ นส.ปารีณา มาชี้ที่ดินที่ได้ไปแจ้งกับ ป.ป.ช. ว่ามีที่ดิน 1,706 ไร่ นั้นก็ไม่ยอมพาไปชี้ แต่ยังยืนยันว่ามีที่ดินอยู่จริง แต่พอตำรวจบอกให้มาชี้ก็ไม่ยอมมา กรณีนายทวีเท่าที่ทราบได้มีการออกหมาย ซึ่งอ้างว่าต้องรังวัดให้ละเอียดก่อนจึงจะรู้ว่าบุกรุกเท่าไหร่ แล้วจึงจะแจ้งข้อหา และมีหมายเรียกให้นายทวีมาพบ ทางตำรวจอ้างอย่างนั้น ส่วนกรณีชาวบ้านไม่ได้มีหลักฐานเลยว่าชาวบ้านคนนั้นบุกรุก เพราะไม่มีสภาพก่อสร้างอะไรเลย มีแต่การถูกไถ ปลูกต้นมันสูงแค่คืบ แต่มีคนกล่าวหาว่ามีชาวบ้านคนหนึ่งเป็นคนเข้ามาไถ ตำรวจยังจับดำเนินคดี อัยการยังสั่งฟ้องศาลได้ แต่ในที่สุดศาลก็ต้องปล่อย เพราะไม่มีหลักฐานว่าไปบุกรุก โดยไปเอาภาพอีกที่หนึ่ง มีรถแบ็กโฮจอดอยู่อีกที่หนึ่ง แค่นี้ยังเอาผิดกันได้ ส่วนกรณีแบบนี้มีสิ่งปลูกสร้างจะเห็นถังบาดาลอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจะมีการรังวัดออกมาว่ามีพื้นที่ทั้งหมดเท่าไหร่ เท่าที่ทราบมีการอ้างเข้ามาครอบครองต่อจากคนอื่นตั้งปี 2523 ที่แปลงนี้มีหลักฐานจากที่นายทวีไปทำหนังสือหาเสียงกับชาวบ้านโพธาราม มีชาวบ้านเอาหนังสือมาให้ เขียนชัดเลยว่าสมัยหนึ่งปี 2530 ได้ที่ดินตรงนี้ 200 ไร่ แต่การได้มาคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจว่าได้มาอย่างไร มีหลักฐานการได้มาอย่างไร     

พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้มาดูที่ดินที่เกิดเหตุโดยการขอหมายค้น ซึ่งได้เชิญนายทวี ไกรคุปต์ มาร่วมด้วย แต่ถ้าไม่มาจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือปลัดอำเภอ ซึ่งเป็นผู้ปกครองท้องที่ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยว่ามีเนื้อที่เท่าไหร่บ้าง มีการทำหนังสือทั้งนายทวี และ น.ส.ปารีณา แต่ก็ไม่มา วันนี้จะดูพื้นที่ละเอียด เพราะของเดิมกรมป่าไม้จะไม่ยุ่งกับพื้นที่ ส.ป.ก. ถ้าวันนี้มีที่ดิน ส.ป.ก.ควบอยู่ ป่าไม้ก็จะรังวัดทั้งหมด และกล่าวหาจำนวนเนื้อที่เพิ่มจาก ส.ป.ก. เหมือนครั้งที่แล้วคล้ายๆ กับของ น.ส.ปารีณา เนื้อที่จากน้อยก็เพิ่มขึ้นไปอีก จึงได้ประสานกับอธิบดีซึ่งประสานจากส่วนกลางลงมา ปัญหาคือส่วนกลางยังไม่เคยเข้าพื้นที่ จึงต้องประชุมกันอยู่ก่อนทางภาพถ่ายทางอากาศ เพราะเดี๋ยวจะเอาโดรนขึ้นบินจะได้เดินง่ายขึ้น เพราะพื้นที่จะดูไม่ออกว่าตรงไหนเป็นเขต ส.ป.ก. ตรงไหนเป็นเขตป่าสงวน แนวเขตอยู่แค่ไหน คณะที่มาตรวจสอบพื้นที่ดินจะเป็นส่วนกลางที่เคยมาตรวจที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์

การตรวจค้นเริ่มตรวจค้นตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. พบมีแท็งก์น้ำรูปแชมเปญหลายจุด และโรงเลื่อยไม้ พบไม้ขนาดใหญ่หลายท่อนวางทิ้งเกลื่อน นอกจากนี้ที่บริเวณบ่อเลี้ยงจระเข้ที่มีการขออนุญาตจำนวน 1,050 ตัว แบ่งการเลี้ยงหลายบ่อ เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพบันทึกเป็นหลักฐาน ก่อนไปตรวจสอบจุดอื่น ๆ

นอกจากนี้ ก่อนเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณทางเข้า เจ้าหน้าที่พบเอกสารฉบับหนึ่งเกี่ยวกับสัญญาจำนองที่ดิน และเมื่อเดินตามรอยรถเข้าไปในป่า มีหลุมขนาดใหญ่ ภายในหลุมพบลังน้ำแข็งใช้สำหรับแช่ซากไก่ตายเพื่อเป็นอาหารจระเข้ ถูกทิ้งส่งกลิ่นเหม็นอยู่จำนวนหลายใบ รวมถึงเครื่องซักผ้าเก่า 

นายวีระ ยอมรับงงมาก เมื่อเห็นเอกสารจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวกับการฟ้องร้องต่อศาลเรื่องที่ดินต่าง ๆ มีนามสกุลไกรคุปต์ด้วย ถูกทิ้งเกลื่อน แต่ทำได้เพียงบันทึกภาพไว้เท่านั้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลที่นำชี้พื้นที่ในวันนี้ไปพิจารณาเกี่ยวกับคดีต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย