เจ้าของรถกระบะที่ถูกถอยชนแจ้งเอาผิดคู่กรณี

กทม. 27 ธ.ค.- เจ้าของรถกระบะที่ถูกคู่กรณีถอยชนซ้ำหลายครั้งเพราะไม่พอใจ เรื่องขับรถเฉี่ยวชนกัน เข้าแจ้งความเอาผิด ตำรวจ สน.คันนายาว นัดทั้งคู่ไกล่เกลี่ยกันพรุ่งนี้


จากกรณีคลิปเหตุการณ์รถกระบะ 2 คัน เฉี่ยวชนบริเวณแยกวัชรพล ถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา จากนั้นนายวสันต์ คล้ายมาลา เจ้าของรถกระบะคันสีบรอนด์ ได้ตั้งใจถอยไปชนท้ายรถกระบะสีดำอย่างจังถึง 3 ครั้ง และแทนที่จะจอดรถเพื่อเรียกประกันมาเคลียร์ กลับลงมาพูดทำนองว่า กระบะสีดำ (ที่ถูกชนท้าย) เป็นฝ่ายผิด และเรียกค่าเสียหาย 4,000 บาท จนกระทั่งฝั่งรถกระบะสีดำที่ถูกชน บอกว่าจะเรียกตำรวจ ยิ่งทำให้คนขับกระบะสีบรอนด์โกรธหนัก เดินขึ้นรถขับถอยชนกระบะสีดำอีก 3 ครั้ง ตามคลิปที่ปรากฏ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุด นายบีม ผู้เสียหายเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ที่ สน.คันนายาว โดยระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เจอหน้านายวสันต์ คู่กรณีอีกเลย โดยหลังเกิดเหตุวันแรก มีภรรยาติดต่อมาเคลียร์บอกว่าจะยอมชดใช้ให้ และวันต่อมา มีพี่สาวของนายวสันต์ ติดต่อมาโดยทางญาติบอกเพียงว่า จะยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้ทั้งหมด รวมถึงออกค่าเช่ารถให้ในระหว่างที่ต้องส่งรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ด้วย แลกกับการไม่แจ้งความดำเนินคดี แต่ตนมองว่าเมื่อเป็นคดีแล้ว อยากให้มาไกล่เกลี่ย แสดงความรับผิดชอบต่อหน้าพนักงานสอบสวนมากกว่า เบื้องต้นทราบว่าหลบหนีไปอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ล่าสุดวันนี้(27 ธ.ค.) ไม่สามารถติดต่อคู่กรณีได้แล้ว 


นายบีมยังเล่าถึงวันเกิดเหตุ โดยยืนยันว่านายวสันต์ ดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างแน่นอน ส่วนจะมุ่งหวังเอาชีวิตตนหรือไม่ ต้องรอถามเจ้าตัวเอง หลังเกิดเหตุนายวสันต์ได้ทิ้งลูกน้อง 3 คน และภรรยากับลูก ไว้ในที่เกิดเหตุจริง ซึ่งภรรยายอมรับว่า สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน

ด้านพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เปิดเผยว่า จะยังไม่ออกหมายเรียก เนื่องจากติดต่อพ่อของนายวสันต์ได้แล้ว โดยจะเชิญมาไกล่เกลี่ยในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.)

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จุดเริ่มต้นมาจากรถของนายบีม ถูกชนท้ายเสียหายเล็กน้อย แต่เมื่อนายวสันต์คู่กรณี ลงมาดูกลับโทษนายบีมว่า เบรคกระทันหัน และเรียกเงินค่าซ่อม 4,000 บาท โดยทั้ง 2 คันต่างไม่มีประกันทั้งคู่ เมื่อนายบีมไม่ยอมชดใช้ และบอกว่าต้องให้ตำรวจมาเป็นคนกลางเจรจาทำให้นายวสันต์ไม่พอใจ และขับรถถอยพุ่งใส่อย่างที่ปรากฎในคลิป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]